นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวบรรยายเรื่อง"ยุทธศาสตร์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนและเงินทุนเคลื่อนย้ายเพื่อความเข้มแข็งที่ยั่งยืน"ว่า ตามแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายในปีนี้จะมีการผ่อนคลายมากขึ้น โดยจะมีการขยายขอบเขตการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินตราต่างประเทศให้มากขึ้น และในเดือน เม.ย.-พ.ค.55 จะอนุญาตให้มีการซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าได้
พร้อมกันนั้น ภายในปีนี้จะขยายวงเงินที่อนุญาตให้บุคคลธรรมดานำเงินออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเดิมสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)กำหนดเพดานไว้ที่ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่ผ่านมามีการนำเงินออกไปลงทุน 3 หมื่นล้านเหรียญฯ และในอนาคตอาจจะพิจารณาขยายขอบเขตการลงทุนให้บุคคลธรรมดาสามารถลงทุนได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านบริษัทหลักทรัพย์
แผนแม่บทยังจะมีการส่งเสริมความร่วมมือของภูมิภาคในการซื้อขายสินค้าโดยใช้เงินสกุลท้องถิ่นให้มากขึ้น เพื่อลดการแลกเปลี่ยนผ่านสกุลเงินกลางคือดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีสเปรดกว้าง ทำให้มีต้นทุนดำเนินการสูงและไม่ได้รับความสะดวก หากในอนาคตส่งเสริมให้ใช้เงินสกุลท้องถิ่นซื้อขายระหว่างกันมากขึ้นก็จะทำให้ เพื่อให้สเปรดแคบลงก็จะช่วยลดต้นทุนและอำนวยความสะดวกได้ดีขึ้น
นอกจากนั้น ในปัจจุบันเงินออมในภูมิภาคมีค่อนข้างสูง แต่มักถูกนำไปลงทุนในตลาดฝั่งตะวันตกมากกว่า เพราะเป็นกลุ่มประเทศมีความกว้างและลึกรองรับปริมาณเงินลงทุนได้มากกว่า ดังนั้นในระยะต่อไปจะมีความร่วมมือเพื่อพัฒนาตลาดในภูมิภาคให้สามารถรองรับการลงทุนได้จำนวนมากขึ้น
นางผ่องเพ็ญ กล่าวว่า จากดุลการชำระเงินที่สะท้อนความไม่สมดุลของเงินไหลเข้าออกในช่วงที่ผ่านมา เป็นแรงกดดันทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งหน้าที่ของ ธปท.พร้อมสนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศให้มีมากขึ้น แต่จะต้องดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้ผันผวน ซึ่งเป็นหน้าที่ของทั้ง ธปท.และกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งลดอุปสรรคในการลงทุนในต่างประเทศ
ในปี 54 พบว่ามีเงินทุนไหลเข้าออกที่สมดุล โดยมีการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศสุทธิ 1.1 หมื่นล้านเหรียญฯ เป็นเงินไหลออก 1.5 หมื่นล้านเหรียญฯ และเงินไหลเข้า 4 พันล้านเหรียญฯ โดยในปี 55 ธปท.ก็จะส่งเสริมให้มีเงินไปลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นและยั่งยืน
การจัดทำแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายของ ธปท.ได้ทยอยดำเนินการใช้มาอย่างต่อเนื่อง และจะมีมากขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้มีเงินไหลออกได้สะดวกและเสรีมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับการเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้ายภายใต้ประชาคมอาเซียน(AEC)ด้วย แต่การเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้ายจะมีมากน้อยาแค่ไหนขึ้นกับพืนฐานความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย การดำเนินนโยบายการเงินการคลัง การรองรับการเปลี่ยนแปลงของภูมิภาค รวมถึงการมีเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยง และการจัดทำข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจการดำเนินธุรกิจ