นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในรอบปีบัญชี 2555 (1 เม.ย.55-31 มี.ค.56)ว่า ธ.ก.ส.ตั้งเป้าสนับสนุนสินเชื่อรวม 658,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากบัญชี 2554 ร้อยละ 8.84 แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการเกษตร 334,000 ล้านบาท สินเชื่อสนับสนุนการสร้างงานในชนบท 121,000 ล้านบาทสินเชื่อเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน 95,600 ล้านบาท สินเชื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและอื่นๆ 107,400 ล้านบาท
ขณะที่ตั้งเป้าระดมเงินฝากเพิ่มอีก 75,000 ล้านบาท รวมทั้งการเพิ่มรายได้จากค่าบริการและค่าธรรมเนียมอีก 1,800 ล้านบาท โดยบริหารอัตราส่วนหนี้สูญให้เหลือร้อยละ 4.53 ด้านสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 1,048,495 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.02 จากปีบัญชี 2554 โดยมีหนี้สินรวม 952,405 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 96,060 ล้านบาท
นอกจากนี้จะสานต่อนโยบายด้านการพัฒนาชุมชนต้นแบบตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ขั้นที่ 1 (พึ่งพาตนเอง) 5,000 ชุมชน ขั้นที่ 2 (พึ่งพาซึ่งกันและกัน) 1,000 ชุมชน และขั้นที่ 3 (เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย) 450 ชุมชน
สำหรับผลการดำเนินงานของ ธ.ก.ส.ใยช่วง 11 เดือน (1 เม.ย.54-29 ก.พ.55) หรือช่วงก่อนสิ้นปีบัญชี 2554ว่า มียอดรวมการจ่ายสินเชื่อเพื่อพัฒนาการประกอบอาชีพแก่เกษตรลูกค้าและสินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลทั้งสิ้น 759,841 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 182,841 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.55 มีเงินฝากทั้งสิ้น 821,721 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 95,148 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.10 มีสินทรัพย์รวม 976,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 77,720 ล้านบาท มีหนี้สิน 891,574 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 74284 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 85,165 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3,436 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 โดยมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ร้อยละ 7.64 ในขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 49,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5,650 ล้านบาท ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรวม 42,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5,557 ล้านบาท คงเหลือเป็นกำไรสุทธิ 7,018 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 94 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.36 โดยมีอัตราผลต่อแทนสินทรัพย์(ROA) อยู่ที่ร้อยละ 0.84 และ อัตราผลแทนตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น(ROE) อยู่ที่ร้อยละ 9.08
สำหรับโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการแล้วอย่างเต็มที่ ประกอบด้วย โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ซึ่งสิ้นสุดโครงการไปเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 1,114,613 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 6.73 ล้านตัน คิดเป็นสินเชื่อจำนวนเงิน 112,969 ล้านบาท มีการสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารส่งมอบคลังสินค้ากลางไปแล้วจำนวน 2.986 ล้านตัน ที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอผลการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีในเขตภาคใต้อีกประมาณ 4 แสนตัน รววมแล้วคาดว่าจะมีข้าวเปลือกนาปีเข้าร่วมโครงการรับจำนำทั้งสิ้นประมาณ 7.13 ล้านตีน คิดเป็นสินเชื่อจำนวนเงิน 1.2 แสนล้านบาท
ส่วนโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร หลังจาก ธ.ก.ส.ได้ว่าจ้างบริษัท วี-สมาร์ท เป็นระยะเวลา 3 ปี ในวงเงิน 177 ล้านบาท ให้เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบ และจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่ร้านค้า และสาขาทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายส่งมอบบัตรให้แก่เกษตรกร 2 ล้านใบ และร้านค้าเข้าร่วมโครงการจำนวน 3,000 ร้านค้า ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ ได้มีการทดลองระบบดังกล่าวใน 5 จังหวัดไปแล้ว ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และ สระบุรี พบว่า มีจำนวนลูกค้าที่ทดลองใช้บัตร 5,339 ราย และได้ขึ้นทะเบียนร้านค้าทั่วประเทศไปแล้ว 1,930 ร้านค้า ซึ่งขณนี้ทั่วประเทศกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อให้ทันการเริ่มใช้งานจริงในวันที่ 1 เม.ย.นี้