ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) ทำสถิติปิดบวกต่ดต่อกัน 4 วันทำการ หลังจากที่กรีซมีความคืบหน้าในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ลดแรงบวกลงในระหว่างวัน ในขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจีนขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากยอดการนำเข้าขยายตัวรวดเร็วกว่าการส่งออก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 37.69 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 12,959.71 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.22 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 1,371.09 จุด ดัชนี Nasdaq ขยับลง 4.68 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,983.66 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการหดตัวลงของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจส่งผลให้ความต้องการพลังงานซบเซาลงด้วย หลังจากอิตาลีเปิดเผยว่าเศรษฐกิจหดตัวลงในไตรมาส 4/2554 และจีนขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 106.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 106.40 - 106.34 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่าจีนขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากยอดการนำเข้าขยายตัวรวดเร็วกว่าการส่งออก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของกรีซ
สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 11.7 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,699.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1702.2 - 1699.0 ดอลลาร์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเยน ในการซื้อขายช่วงท้ายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมนโยบายการเงินในคืนวันอังคารที่ 13 มี.ค.ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนจับตาดูว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) จะส่งสัญญาณใดๆในการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ากรีซได้เสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนพันธบัตรแล้วเมื่อวานนี้
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.27% แตะที่ 1.3148 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3113 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์ร่วงลง 0.27% แตะที่ 1.5632 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5675 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.21% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.250 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 82.420 เยน และร่วงลง 0.26% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9168 ฟรังค์ จากระดับ 0.9192 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.64% แตะที่ 1.0502 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0570 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.35% แตะที่ 0.8178 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8207 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากมีรายงานว่าจีนขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากยอดการนำเข้าขยายตัวรวดเร็วกว่าการส่งออก
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,892.75 จุด เพิ่มขึ้น 5.26 จุด หรือ 0.1%