สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่าจีนขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากยอดการนำเข้าขยายตัวรวดเร็วกว่าการส่งออก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของกรีซ
สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 11.7 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,699.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1702.2 - 1699.0 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวลง 80 เซนต์ ปิดที่ 33.41 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 3.84 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 10.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,695.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบดือนมิ.ย.ร่วงลง 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 704.25 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากจีนเปิดเผยยอดขาดดุลการค้า 3.148 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งนับเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากการนำเข้าขยายตัวเร็วกว่าการส่งออก โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 18.4% จากปีก่อน แตะที่ 1.1447 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะพุ่งขึ้น 31% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 39.6% แตะที่ 1.4596 แสนล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การขาดดุลการค้าของจีน ประกอบกับการที่จีนเพิ่งจะประกาศปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 8% นั้น ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทต่างๆ ซบเซาลงด้วย
ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอของจีนได้บดบังความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของกรีซ โดยมีรายงานว่ากรีซได้เสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนพันธบัตรมูลค่า 1.772 แสนล้านยูโร (2.325 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่รัฐบาลกรีซได้ทำร่วมกับเจ้าหนี้ภาคเอกชน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระหนี้สินของกรีซ