นางลิน ค็อก กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 55 ธนาคารยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้เป็นตัวเลข 2 หลัก จากปี 54 ที่มีรายได้ 1.1 หมื่นล้านบาท และมีกำไร 4 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยการเติบโตจะมาทั้งจากธุรกิจบุคคลธนกิจและสถาบันธนกิจในสัดส่วนที่เท่าๆกัน
ในปีนี้ธนาคารจะยังคงดำเนินกลยุทธ์เช่นเดิม คือการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง รักษาความแข็งแกร่งของงบดุล และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่เหนือชั้น โดยในส่วนของธุรกิจบุคคลธนกิจจะดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์"เซอร์วิส การันตี"เช่น การการันตีการอนุมัติสินเชื่อภายใน 48 ชั่วโมง และการการันตีการให้บริการในสาขาจะต้องไม่เกิน 8 นาที เป็นต้น ทั้งนี้จะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
สำหรับลูกค้าชั้นดี (ไพรออริตี้แบงกิ้ง) จะมีการเปิดตัว"คลินิกจัดการความมั่งคั่ง" เพื่อให้ความรู้ในการบริหารจัดการทรัพย์สินกับลูกค้า และยังจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี หลังจากประสบความสำเร็จกับบัญชีเงินฝาก "เซฟวิ่ง ฟอร์ แฟน" พร้อมบัตรเอทีเอ็มและเดบิตซึ่งทำให้ได้ลูกค้าใหม่มากถึง 54%
ด้านธุรกิจสถาบันธนกิจก็จะยังคงความแข็งแกร่งในการนำลูกค้าสู่การลงทุน และการขยายตลาดในต่างประเทศด้วยความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายทางธุรกิจทั่วโลกของธนาคาร
ทั้งนี้ ในระยะยาวธนาคารเชื่อว่าจะได้รับประโยชน์จากการเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 58 จากการที่ผู้ประกอบการไทยจะออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการจากต่างประเทศก็จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งธนาคารก็จะใช้จุดแข็งจากการมีโครงข่ายครอบคลุมทั่วอาเซียนและทั่วโลกมาอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
"ในระยะยาวไทยจะได้เปรียบและได้ประโยชน์จากการค้าและการลงทุนในอาเซียนหลังเกิด AEC เราก็จะอาศัยจุดแข็งจากการมีโครงข่ายครอบคลุม 70 ประเทศทั่วโลก และ 9 ประเทศในอาเซียน เราก็จะใช้ประโยชน์จากเครือข่ายข้ามพรมแดนนี้ ซึ่งบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนในไทยก็คงต้องใช้บริการของเราโดยอัตโนมัติ ส่วนบริษัทไทยที่ต้องการไปลงทุนในต่างประเทศก็คงเช่นเดียวกัน"นางลิน ค็อก กล่าว