กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ความต้องการสินทรัพย์ทางการเงินของสหรัฐจากนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นในเดือนมกราคม ในขณะที่นักลงทุนหาทางหลีกหนีวิกฤตหนี้ในยุโรป
รายงานระบุว่า ยอดซื้อสุทธิของหุ้น ตั๋วเงิน และพันธบัตรระยะยาวสหรัฐโดยนักลงทุนต่างประเทศ รวมอยู่ที่ 1.01 แสนล้านดอลลาร์ในระหว่างเดือนดังกล่าว เทียบกับยอดซื้อสุทธิที่ 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ขณะที่ยอดซื้อสุทธิหลักทรัพย์ระยะสั้น อาทิ สัญญาสว็อปหุ้น อยู่ที่ 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม เทียบกับยอดซื้อสุทธิ 9.52 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ สินทรัพย์ของสหรัฐดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศในเดือนมกราคม ในขณะที่ผู้นำยุโรปยังคงพยายามหาทางควบคุมวิกฤตหนี้ในภูมิภาคไม่ให้ลุกลาม
กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามข้อมูลต่างชาติซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตั๋วเงิน, หุ้น, หุ้นกู้ และหลักทรัพย์ที่ออกโดยหน่วยงานของสหรัฐ ซึ่งพบว่า จีนยังคงเป็นผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุดในเดือนมกราคม หลังจากที่จีนซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 7.6 พันล้านดอลลาร์ เป็น 1.16 ล้านล้านดอลลาร์
ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากสุดเป็นอันดับ 2 ที่ 1.08 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ และฮ่องกงถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.6 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.303 แสนล้านดอลลาร์