ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ รับผลประมูลตราสารหนี้ฝรั่งเศส

ข่าวต่างประเทศ Friday March 16, 2012 07:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามเทขายทำกำไรหลังจากสกุลเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยเฉพาะพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ขณะที่สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสประสบความสำเร็จในการระดมทุนผ่านการขายตราสารหนี้เมื่อวานนี้

สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.43% แตะที่ 1.3083 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3027 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.28% แตะที่ 1.5716 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5672 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 83.480 เยน จากระดับ 83.640 เยน และร่วงลง 0.84% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9224 ฟรังค์ จากระดับ 0.9302 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.75% แตะที่ 1.0530 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0452 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.27% แตะที่ 0.8196 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8093 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลฝรั่งเศสสามารถระดมทุนจากการประมูลขายตราสารหนี้ได้มูลค่าทั้งสิ้น 8.46 พันล้านยูโร (1.105 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อนี้ โดยมีต้นทุนการกู้ยืมลดลง รวมถึงยอดการจำหน่ายตราสารหนี้อายุ 5 ปีที่ 3.26 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 1.78% ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของตราสารหนี้อายุ 4 ปีที่มีการประมูลเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ระดับ 1.93%

ความสำเร็จในการประมูลขายตราสารหนี้ของฝรั่งเศสสะท้อนให้เห็นว่าการปล่อยเงินกู้ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) สามารถกระตุ้นความต้องการตราสารหนี้ในยูโรโซนได้ โดยอีซีบีได้จัดสรรเงิน 5.30 แสนล้านยูโร (7.133 แสนล้านดอลลาร์) สำหรับการดำเนินมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (LTRO) ระยะเวลา 3 ปี เมื่อวันพุธที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีธนาคารทั้งสิ้น 800 แห่งที่ขอเงินกู้ครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ธนาคารกลางยุโรปดำเนินการอัดฉีดสภาพคล่องในลักษณะดังกล่าว หลังจากที่ได้ปล่อยสินเชื่อ 3 ปี มูลค่า 4.89 แสนล้านยูโร ที่อัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ 523 แห่งในยูโรโซนไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ด้วยเป้าหมายที่จะกระตุ้นการกู้ยืมภายในภูมิภาคซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตหนี้

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามเทขายทำกำไรหลังจากสกุลเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยเฉพาะพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน

ส่วนสกุลเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แม้ฟิทช์ เรทติ้งส์เตือนว่า อังกฤษมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือ AAA ก็ตาม

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ความต้องการสินทรัพย์ทางการเงินของสหรัฐจากนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นในเดือนมกราคม ในขณะที่นักลงทุนหาทางหลีกหนีวิกฤตหนี้ในยุโรป

รายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ยอดซื้อสุทธิของหุ้น ตั๋วเงิน และพันธบัตรระยะยาวสหรัฐโดยนักลงทุนต่างประเทศ รวมอยู่ที่ 1.01 แสนล้านดอลลาร์ในระหว่างเดือนดังกล่าว เทียบกับยอดซื้อสุทธิที่ 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ขณะที่ยอดซื้อสุทธิหลักทรัพย์ระยะสั้น อาทิ สัญญาสว็อปหุ้น อยู่ที่ 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม เทียบกับยอดซื้อสุทธิ 9.52 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 0.4% และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.พ.ในวันนี้เวลา 20.15 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว 0.4% และอัตราการใช้กำลังผลิตจะอยู่ที่ 78.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ