นายสุกิจ คงปิยาจารย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยที่มีมูลค่าการลงทุนขนาดใหญ่สุด 15 รายแรกของไทยได้ตัดสินใจหยุดลงทุนขยายกิจการเพิ่มเติมในไทยแล้ว เพราะไม่สามารถแบกรับภาระนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท/วัน ตามนโยบายของรัฐบาลได้
ประกอบกับ การขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมจำนวนมาก จึงได้หันไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านแทน เช่น พม่า, ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม นอกจากนี้มองว่านโยบายปรับขึ้นค่าแรงไม่สอดคล้องกับการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เป็นเพียงนโยบายหาเสียงการเมืองของรัฐบาล
"นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จะทำให้ต้นทุนสินค้าไทยแข่งขันกับสินค้าของประเทศคู่แข่งไม่ได้ เพราะการปรับขึ้นค่าแรงงานจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น 3-6% ทำให้ต้องเพิ่มราคาขายสินค้าให้กับลูกค้าต่างประเทศ หากลูกค้าต่างประเทศไม่ยอมรับกับราคาดังกล่าว ทำให้ขายสินค้าได้ยากและส่งผลต่อขีดความสามารถการแข่งขันระยะยาวของอุตสาหกรรมสูญเสียไป" นายสุกิจ กล่าว
ด้านนายวัลลภ วิตนากร ที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า โรงงาน 15 รายที่ไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านคาดว่าจะมีมูลค่าลงทุนรวมกันประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนผู้ประกอบการรายเล็กที่ยังผลิตสินค้าอยู่ในไทยเป็นห่วงว่าราว 30% อาจมีความเป็นไปได้ที่จะต้องปิดกิจการลง เพราะไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนการผลิตได้