กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเดือนก.พ.พุ่งสูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ระดับ 0.4% เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI ทั่วไปเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% น้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 0.2%
ขณะที่ดัชนี CPI ทั่วไปในรอบ 12 เดือนไต่ขึ้นแตะระดับ 2.9% ในเดือนก.พ. เท่ากับในเดือนม.ค. และดัชนี CPI พื้นฐานในรอบ 12 เดือน ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนก.พ. เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนม.ค.
สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนี CPI เดือนก.พ.พุ่งสูงขึ้นนั้น มาจากราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบให้ภาคครัวเรือนมีเงินซื้อสินค้าและบริการอื่นๆน้อยลง กระทรวงแรงงานระบุว่า ราคาพลังงานพุ่งขึ้น 3.2% จากเดือนก่อนหน้า โดยราคาน้ำมันเบนซินทะยาน 6% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2553
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่า ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวขึ้นในระยะนี้ อาจจะหนุนเงินเฟ้อให้สูงขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และเชื่อว่า ภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในการควบคุม