สหรัฐขานรับความเคลื่อนไหวล่าสุดกรณีที่สมาคมการสื่อสารโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก (SWIFT) ดำเนินการตัดขาดธนาคารอิหร่านที่ถูกขึ้นบัญชีดำออกจากระบบธุรกรรมการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ตามมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะมีผลในวันพรุ่งนี้
"สหรัฐยินดีกับการดำเนินงานในวันนี้ของ SWIFT ที่ยุติบริการด้านธุรกรรมการเงินกับธนาคารอิหร่านที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ซึ่งเราเข้าใจว่ารวมถึงธนาคารกลางอิหร่านด้วย" เดวิด โคเฮน รมช.คลังฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายและข่าวกรองการเงินกล่าว
"การตัดสินใจในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่า นานาประเทศเห็นพ้องกันถึงความเป็นจำเป็นในการเพิ่มแรงกดดันเพื่อโน้มน้าวให้อิหร่านแก้ปัญหานิวเคลียร์ที่ผิดกฏหมายซึ่งเป็นประเด็นที่นานาประเทศวิตกกังวล" นายโคเฮนกล่าว
อย่างไรก็ตาม อิหร่านยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์มีจุดประสงค์ในทางสันติ ขณะที่ชาติตะวันตกกดดันให้อิหร่านยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อคลายความสงสัยเกี่ยวกับเจตนาในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐลงนามประกาศใช้กฎหมายเมื่อปลายปีที่ผ่านมาโดยขยายขอบเขตการคว่ำบาตรอิหร่านให้ครอบคลุมถึงภาคธนาคารและการเงิน รวมถึงการกำหนดบทลงโทษต่อธนาคารต่างชาติที่มีข้อตกลงนำเข้าน้ำมันกับธนาคารกลางอิหร่าน
ทั้งนี้ SWIFT เป็นกลุ่มสมาคมในเบลเยียมที่ดำเนินการชำระเงินกับธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และลูกค้าองค์กรกว่า 9,700 แห่งใน 209 ประเทศ โดยมีธุรกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินหลายล้านรายการต่อวัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน