ThaiBMA คาดผลเก็บค่าต๋งแบงก์เพิ่มดันยอดออกหุ้นกู้ปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 19, 2012 11:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิวัตน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) คาดว่า ในปี 55 ภาคเอกชนจะมีการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีวงเงินรวมกันเกิน 3.9 แสนล้านบาทที่เคยทำได้ในปี 52 โดยในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.55 ภาคเอกชนได้มีการออกหุ้นกู้ไปแล้วประมาณกว่า 1 แสนล้านบาท และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีก็น่าจะมีการหุ้นกู้ระยะสั้นอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะจากสถาบันการเงิน หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังเตรียมเรียกเก็บเงินนำส่งเพิ่มในส่วนของเงินฝากและตั๋วแลกเงินบีอี (B/E) 0.47% ซึ่งทำให้สถาบันการเงินมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น

"ตอนนี้ก็ต้องรอดูไปอีก 2-3 เดือนว่าเป้า 3.9 แสนล้านบาทจะเป็นไปได้ไหม แต่เชื่อว่าน่าจะทำได้ เพราะ 2 เดือนแรกก็ออกไปแล้วกว่า 1 แสนล้าน ผมคิดว่าแบงก์ทุกแบงก์ต้องมีการออกตราสารหนี้ ซึ่งปัจจุบันก็ได้ออกไปแล้ว 4 ธนาคาร เพราะแบงก์ยังต้องหาทางเลือกเพื่อมาชดเชยการออกตั๋ว B/E ซึ่งก็มีอยู่ 3 วิธี 1.การระดมเงินฝาก 2.การขายสินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่ออกไปเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด และสุดท้ายก็คือการระดมทุนผ่านตราสารหนี้"นายนิวัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้เข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของไทยมากขึ้น โดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะสั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเข้ามาเพื่อหวังผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของไทยถือว่ายังน้อยมากเพียงประมาณ 7% เท่านั้น เนื่องจากสภาพคล่องของตลาดมีไม่มาก โดยขณะนี้ทางสมาคมฯก็มีแผนส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งนักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนมากขึ้น รวมทั้งการผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนซึ่งมีกว่า 500 บริษัท เข้ามาระดมหุ้นผ่านการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้น

"นักลงทุนในประเทศทั้งแบงก์และนักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่จะซื้อแล้วไม่เน้นเทรดเหมือนนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งสิ่งที่เรากำลังทำตอนนี้ก็คืออยากให้มีนักลงทุนที่หลากหลายในตลาดฯ ตอนนี้ก็เร่งส่งเสริมให้นักลงทุนรายย่อยและต่างประเทศเข้ามามากขึ้น และให้นักลงทุนสถาบันมี activity มากขึ้นด้วย ส่วนตัว corporate bond ก็มีการออกเพิ่มขึ้นปีละแสนกว่าล้าน ก็เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10% ซึ่งเราก็อยากให้โตมากกว่านี้ เพราะว่าดูจากบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดทั้ง SET และ MAI รวมกันก็กว่า 500 บริษัท แต่มีแค่ 80 บริษัทที่อยู่ใน SET ที่ออกตราสารหนี้ จึงยังมีโอกาสอีกมาก"นายวิวัตน์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าเรื่องกองทุนเอเชียบอนด์ ซึ่งมีวงเงินรวม 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยได้รับจัดสรร 140 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4 พันล้านบาท มองว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อย แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าตราสารหนี้ที่ออกภายใต้กองทุนเอเชียบอนด์จะเริ่มเห็นได้ภายช่วงไตรมาส 2-3/55 นี้อย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องการยกเว้นการจัดเก็บภาษี Capital gain สำหรับการลงทุนหุ้นกู้ ทางสมาคมเตรียมเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนพิจารณา ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 56 โดยขณะนี้ทางกรมสรรพากรได้เห็นชอบในหลักการแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ