สำนักข่าว Matangi Tonga Online รายงานว่า กษัตริย์จอร์จ ทูปูที่ 5 แห่งตองก้า เสด็จสวรรคตแล้วที่โรงพยาบาลในฮ่องกง หลังจากที่ทรงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาตองก้า และได้เสด็จสวรรตในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โดยกษัตริย์จอร์จ ทูปูที่ 5 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง
--นายหลี่ เคอเฉียง รองนายกรัฐมนตรีจีนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่ได้ประชุมร่วมกับนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่กรุงปักกิ่งว่า รัฐบาลจีนสนับสนุนให้ไอเอ็มเอฟมีบทบาทมากขึ้นในการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป
--รัฐบาลจีนประกาศว่าจะดำเนินการควบคุมกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงินจีนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยจะมุ่งเน้นไปที่การแนะนำให้สถาบันการเงินดังกล่าวให้ความสำคัญกับการกระตุ้นผลกำไรและควบคุมความเสี่ยง อีกทั้งเพิ่มจำนวนบุคลากรที่มีความสามารถสูง
--นายเฉิน เต๋อหมิง รัฐมนตรีพาณิชย์จีนคาดว่า จีนจะก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อพิจารณาจากมูลค่าการค้า ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันจีนรั้งอันดับ 2 ในฐานะผู้นำเข้ารายใหญ่ของโลก
--สำนักงานกำกับดูแลการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) เปิดเผยว่า การกู้ยืมเงินในต่างประเทศทั้งในระยะยาวและระยะกลางของธนาคารพาณิชย์เกาหลีใต้ ยังคงอยู่ในช่วงของขาขึ้นในเดือนก.พ. เนื่องจากธนาคารเกาหลีใต้เร่งสำรองสภาพคล่องสกุลเงินต่างชาติ เพื่อรับมือภาวะผันผวนในต่างประเทศ
--นายหม่า เจียนถัง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยว่า ภาวะประชากรสูงอายุขึ้นและการเสื่อมถอยของสภาพสิ่งแวดล้อมจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
--ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า จำนวนบริษัทที่ยื่นล้มละลายในเกาหลีใต้ได้ลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยส่วนใหญ่เนื่องมาจากจำนวนบริษัทก่อสร้างที่ผิดนัดชำระหนี้ลดลง
--ธนาคารโลกระบุว่า ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องเร่งการปฏิรูปในด้านต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่สูงกว่า 5% เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ยากจน
--ซาอุดิอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปก ผลิตน้ำมัน 9.87 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.6% จากระดับ 9.81 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนธันวาคม ส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันเดือนดังกล่าวสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบกว่า 31 ปี
--วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า กลุ่มอาเซียน+3 ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอีก 3 ประเทศ ซึ่งได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ วางแผนที่จะเพิ่มวงเงินใน "แผนริเริ่มเชียงใหม่" (CMI) อีก 2 เท่า เพื่อให้แต่ละประเทศสามารถรับมือกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน