กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ แต่เศรษฐกิจยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.5% ในปีนี้ เทียบกับปีที่แล้วที่ 4%
นายซู หมิน รองผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวในที่ประชุมซึ่งจัดโดย "Asia Society Hong Kong Center" ว่า แม้ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะชะลอตัวลง แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ "เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น"
รองผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในยุโรปว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินมากขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของยูโรโซนปรับตัวลดลง ส่วนในสหรัฐนั้น อุปสงค์ภาคสาธารณะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงสดใส ส่วนประเทศเอเชียและในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ได้มีการใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกส่งสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น แต่รองผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟมองว่าเศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง โดยระบุถึงยุโรปว่า ขั้นตอนการเสริมสภาพคล่องของสถาบันการเงินในยุโรปยังคงดำเนินไป และยุโรปจำเป็นต้องป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนในสหรัฐนั้น เศรษฐกิจขยายตัวช้าลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอุปทานและอุปสงค์กระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อย สำนักข่าวซินหัวรายงาน