2 องค์กรวิชาชีพสื่อฯ ยื่นกสทช.ทบทวนแผนแม่บทฯ-ปรับร่นระยะเวลาคืนความถี่

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 20, 2012 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และนางสาวสุวรรณา สมบัติรักษาสุข ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พร้อมคณะกรรมการองค์กรวิชาชีพทั้งสองแห่ง ยื่นหนังสือต่อพันเอก นที ศุกลรัตน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสทช.) เพื่อขอให้ กสทช.ทบทวน สาระสำคัญในการกำหนดระยะเวลาเรียกคืนคลื่นความถี่ ซึ่งมีตัวแทนภาคประชาชน นักวิชาชีพ และนักวิชาการจำนวนมากทักท้วงไม่เห็นด้วยกับกรอบระยะเวลาการเรียกคืนคลื่นความถี่ กิจการวิทยุภายใน 5 ปี กิจการโทรทัศน์ภายใน 10 ปี และกิจการโทรคมนาคมภายใน 15 ปี

พร้อมเรียกร้องให้ กสทช. นำข้อเสนอจากรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ฯ และ ร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2555 —2559) ซึ่งได้ดำเนินการไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมากลับไปพิจารณาใหม่

“องค์กรวิชาชีพสื่อฯ เห็นว่าระยะเวลาที่นานเกินไป ประกอบกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว จะทำให้ร่างแผนการบริหารคลื่นความถี่ฯนี้ อาจไม่มีผลบังคับใช้ได้จริงในทางปฏิบัติ พร้อมเสนอให้เร่งระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นในกิจการกระจายเสียงว่าไม่ควรเกิน 2 ปี และกิจการโทรทัศน์ไม่ควรเกิน 4 ปี เพื่อให้กิจการแต่ละประเภทปรับเข้าสู่ระบบใบอนุญาตในรอบต่อไปได้เร็วขึ้น อันจะส่งผลให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปสื่อที่ล่าช้ามานานกว่า 14 ปี"

ทั้งสององค์กรเห็นว่าข้อเสนอจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีต่อแผนยุทธศาสตร์การคืนคลื่นความถี่ฯ โดยเฉพาะความเห็นที่ผ่านกระบวนการในเวทีรับฟังที่ กสทช.เป็นผู้จัดให้มีขึ้นนั้นมีความสำคัญ จึงจำเป็นที่ กสทช.จะต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณาและถือเป็นสาระสำคัญเพราะมีผู้เห็นด้วยกับข้อทักท้วงนี้จำนวนมากอีก ทั้งต้องการให้เร่งรัดการจัดสรรคลื่นความถี่โดยเร็วที่สุด

“หาก กสทช.ปฏิเสธความเห็นเหล่านี้ เท่ากับปฏิเสธความคิดเห็นและปฏิเสธการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ขัดต่อแนวทางหลักที่จัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อการบริหารงานและกำหนดทิศทางนโยบายในอนาคต จึงขอเรียกร้องให้ กสทช.ทบทวนแนวคิดดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ก่อนประกาศใช้แผนฯ หรือมาตรการใดๆที่จะส่งผลกระทบต่อผู้คนในวงกว้าง"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ