สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สกุลเงินยูโรร่วงลง 0.13% แตะที่ 1.3223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3240 ดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินปอนด์ร่วงลง 0.21% แตะที่ 1.5861 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5894 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.44% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 83.710 เยน จากระดับ 83.340 เยน และขยับขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ 0.9117 ฟรังค์ จากระดับ 0.9109 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.27% แตะที่ 1.0475 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0610 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.08% แตะที่ 0.8172 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8261 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนแห่ถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 8% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ได้คงเป้าหมายเอาไว้ที่ 8% มาเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน
นอกจากนี้ บีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ระดับโลก แสดงความคิดเห็นผ่านรายงานล่าสุดว่า ความต้องการเหล็กและสินแร่เหล็กที่ปรับตัวลงในประเทศจีน ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวลง และอาจจะฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
ขณะเดียวกันนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านลดลง 1.1% ในเดือนก.พ. มาอยู่ที่ 698,000 ยูนิต ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ 700,000 ยูนิตในเดือนก.พ. ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนว่าความอ่อนแอของตลาดที่อยู่อาศัยอาจจะเพิ่มแรงกดดันต่อแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แม้ธนาคารกลางของสเปนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สเปนสามารถระดมทุนจากการขายตั๋วเงินได้ 5.04 พันล้านยูโร (6 พันล้านดอลลาร์) ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 หลังการปล่อยเงินกู้ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) หนุนความต้องการตราสารหนี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อหลัก ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 3.4% ในเดือนก.พ. จาก 3.6% ในเดือนม.ค. โดยสาเหตุหลักมาจากค่าไฟและแก๊สที่ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2553 แต่การชะลอตัวดังกล่าวก็ยังน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3.3% และตัวเลขดังกล่าวก็ยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.พ. และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.