"เบอร์นันเก้"ชี้วิกฤตหนี้ยุโรปส่งผลกระทบสหรัฐทั้งด้านการเงินและการค้า

ข่าวต่างประเทศ Thursday March 22, 2012 10:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการปฏิรูปและกำกับดูแลแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนได้ส่งผลกระทบต่อสหรัฐทั้งในด้านการค้าและการเงิน

"สหภาพยุโรป (อียู) มีสัดส่วนในภาคการส่งออกสินค้าและการบริการราว 1 ใน 5 โดยยอดส่งออกสินค้าจากสหรัฐไปยังยุโรปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาย่ำแย่ลงมาก ซึ่งทำให้การส่งออกของเราไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลกนั้น อ่อนแอลงด้วย นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของอุปสงค์จากยุโรปยังส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆเป็นไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งก็ทำให้อุปสงค์สินค้าของเราในต่างประเทศอ่อนแอลงด้วย" เบอร์นันเก้กล่าว

เบอร์นันเก้กล่าวว่า นอกเหนือไปจากการค้าแล้ว ภาวะตึงตัวด้านการเงินในยุโรปยังส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินของสหรัฐ และแม้ว่าบริษัทการเงินและตลาดการเงินของสหรัฐมีเวลาในการปรับตัวเพื่อรับมือกับการขาดทุนและสามารถป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในยุโรปได้ในระดับหนึ่ง แต่ความเสี่ยงเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวล

ในระหว่างการแถลงครั้งนี้ เบอร์นันเก้ได้กล่าวถึงมาตรการต่างๆที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของยุโรปนำมาใช้ โดยระบุว่า มาตรการเหล่านี้สามารถคลี่คลายความตึงเครียดด้านการเงินในยุโรปในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้สถานการร์ในตลาดการเงิน รวมถึงสหรัฐ ฟื้นตัวขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้กล่าวว่า สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเงินของยุโรปยังคงอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก และจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำยุโรปจะต้องดำเนินการตามนโยบายที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ เพื่อให้การสร้างเสถียรภาพเป็นไปอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดจะยังคงติดตามดูสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินของยุโรปอย่างใกล้ชิด และเฟดพร้อมที่จะหนุนตลาดสหรัฐให้มีเสถียรภาพ หากจำเป็น สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ