นายโยชิฮิสะ โมริโมโตะ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น คาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะกลับมาฟื้นตัวในระดับปานกลางในครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2555 ซึ่งเริ่มต้นในเดือนเมษายน แต่ขณะเดียวกันก็เตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงอันเนื่องมาจากวิกฤติหนี้ยูโรโซนและราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น
นายโมริโมโตะกล่าวว่า ญี่ปุ่นอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
โดยถึงแม้จะยอมรับว่า ความตึงเครียดเกี่ยวกับวิกฤติหนี้สินในยุโรปได้ผ่อนคลายลงในระดับหนึ่งอันเนื่องมาจากความคืบหน้าเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ แต่นายโมริโมโตะกล่าวว่า สถานการณ์อาจจะเลวร้ายลงอีกครั้ง พร้อมทั้งระบุว่า เหตุการณ์ในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับวิกฤติหนี้ยุโรปถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ส่วนในเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศตะวันตกและอิหร่านซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น นายโมริโมโตะได้แสดงความวิตกกังวลว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น เนื่องจากมีผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจ
นอกจากนี้ นายโมริโมโตะยังได้กล่าวถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอุปทานไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการพาณิชย์ภายในประเทศยังคงระงับการผลิตในช่วงดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ผู้ผลิตไฟฟ้าต้องผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และอาจตัดสินใจผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นดังกล่าวมายังภาคธุรกิจ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน