นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้แสดงความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างฉับพลัน ผ่านทางมาตรการต่างๆ เช่น มาตรการ "Operation Twist" ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การผ่อนคลายด้านการเงินที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เคยนำมาใช้
นายชิรากาว่ากล่าวกับคณะกรรมาธิการของสภาไดเอ็ทว่า "ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันของญี่ปุ่น เพราะในขณะที่มีความพยายามที่ฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ลดลงนั้น การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะสั่นคลอนเสถีรภาพในตลาดการเงินและจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง"
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ปีที่แล้ว เฟดประกาศใช้มาตรการ Operation Twist หรือการใช้เงินมูลค่า 4 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุการไถ่ถอน 6-30 ปี พร้อมกับขายพันธบัตรอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่า ในวงเงิน 4 แสนล้านดอลลาร์เท่ากัน โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม
ในขณะที่บีโอเจเลือกที่จะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคาร ผ่านทางโครงการซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลจากสถาบันการเงินภายในประเทศ
นักวิเคราะห์คาดว่า ทางเลือกที่บีโอเจจะนำมาใช้ในการาผ่อนคลายนโยบายการเงินนั้น อาจจะรวมถึงการขยายระยะเวลาการไถ่ถอนพันธบัตรที่บีโอเจได้เข้าซื้อ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้มีการเทขายตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งจะทำให้ราคาตราสารหนี้ปรับตัวลดลงและหนุนอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้พุ่งสูงขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน