นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า ช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดของวิกฤติยูโรโซนได้ผ่านพ้นไปแล้วและสถานการณ์กำลังจะมีเสถียรภาพ
นายดราจิแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์บิลด์ของเยอรมนี โดยกล่าวว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกำลังฟื้นตัว และอีซีบีได้ระงับโครงซื้อหลักทรัพย์ในตลาดซึ่งจะช่วยให้อีซีบีสามารถซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดทุติภูมิได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์
นอกจากนี้ นายดราจียังระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจบางรายการ ซึ่งรวมไปถึงเงินเฟ้อ บัญชีเดินสะพัด และงบประมาณขาดดุล ต่างก็บ่งชี้ว่า ยุโรปมีพัฒนาการที่ดีกว่าสหรัฐ
อย่างไรก็ดี นายดราจีเตือนว่า ยังคงมีความเสี่ยงพร้อมกับย้ำว่า รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยระบุว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ ต้องทำให้ยูโรโซนมีภูมิคุ้มกันวิกฤติในระยะยาว
สำหรับการดำเนินมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (LTRO) อายุ 3 ปีจำนวน 2 ครั้ง นายดราจีกล่าวว่า อีซีบีได้จัตาดูอย่างใกล้ชิดในความเป็นจริงที่ว่า การแก้ปัญหาวิกฤติและสินเชื่อตึงตัวด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องไม่ได้ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ อีซีบีได้ปล่อยเงินกู้กว่า 1 ล้านล้านยูโร (1.32 ล้านล้านดอลลาร์) ให้กับธนาคารยุโรปผ่านโครงการ LTRO 2 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้ นายดราจีกล่าวว่า LTRO ครั้งที่ 1 ซึ่งดำเนินการในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ได้ช่วยบรรเทาภาวะสินเชื่อตึงตัวครั้งสำคัญได้
อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งของเยอรมนีได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้จำนวนมากของอีซีบี สำนักข่าวซินหัวรายงาน