(เพิ่มเติม) กพช.สั่งหาเงินเพิ่มให้กองทุนน้ำมันฯ 2 หมื่นลบ.,ขยายเวลาจ่ายไฟ"น้ำงึม3"

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 23, 2012 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ในวันนี้มีมติให้จัดหาเงินกู้หรือออกตราสารหนี้ให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท อายุการชำระหนี้ราว 3 ปี พร้อมทั้งให้ขยายเวลาการชำระหนี้เดิมของกองทุนน้ำมันฯ 1 หมื่นล้านบาท ออกไปเป็น 3 ปี จากเดิม 1 ปี

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม กพช.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาผลกระทบจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งน้ำมัน, ก๊าซแอลพีจี และอื่นๆ จนกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อให้เร่งตัวสูงขึ้น โดยที่ประชุมเห็นร่วมกันว่ายังคงเดินหน้าแผนปรับโครงสรางราคาพลังงานเช่นเดิม ได้แก่ การปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่ง การขึ้นราคาเอ็นจีวีทุกเดือน ส่วนแอลพีจีภาคครัวเรือนจะยังคงตรึงราคาไปจนถึงสิ้นปีนี้

แต่เนื่องจากขณะนี้ ราคาแอลพีจีตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงมาก ส่งผลกระทบทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องอุดหนุนเพิ่มขึ้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกู้เงินเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท จากกรอบเงินกู้เดิม 10,000 ล้านบาท รวมเป็น 30,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มอบให้กระทรวงพลังงานพิจารณาว่ากองทุนน้ำมันฯ จะหารายได้เพิ่มได้อย่างไร เช่น เก็บเงินกองทุนเพิ่มจากน้ำมันเบนซินจากเดิมที่ กพช. เคยมีมติจะเก็บเงินเพิ่มในอัตรา 1 บาทต่อ/ทุกเดือน แต่จะไม่มีการเก็บเงินจากแก๊สโซฮอล์ และดีเซล

"กพช.พิจารณาเรื่องโครงสร้างพลังงานควบคู่กับเงินเฟ้อ ซึ่งยืนยันจะให้กระทบค่าครองชีพประชาชนน้อยที่สุด แต่หากเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น ก็อาจต้องชะลอการปรับขึ้นราคาแอลพีจีและกองทุนน้ำมันฯ" นายกิตติรัตน์ กล่าว

พร้อมกันนั้น ยังอนุมัติให้ขยายเวลาจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ โครงการน้ำงึม 3 กำลังผลิต 440 เมกะวัตต์ ออกไปจากเดือน ม.ค.60 เป็นหลังเดือน ก.พ.61 เนื่องจากโครงการได้รับความเสียหายจากพายุ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงการก่อสร้างใหหม่ รวมทั้งเห็นชอบอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ของโครงการน้ำงึม 1 และเซเสด ที่จำหน่ายไฟฟ้าให้กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว 5 สต./หน่วย

กพช.เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานดำเนินโครงการบริหารจัดการเพื่อการประหยัดพลังงานในอาคารควบคุมภาครัฐในลักษณะธุรกิจจัดการพลังงาน หริอ เอสโค่ โดยจะให้บริการครบวงจรนำร่องในอาคารภาครัฐ ตั้งแต่ตรวจสอบการใช้พลังงาน กำหนดมาตรฐานอนุรักษ์พลังงาน ออกแบบรายละเอียด จัดหาแหล่งทุน ติดตั้งเครื่องจักร และประเมินผล

โครงการนำร่อง ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา คาดว่าจะเกิดการประหยัดพลังงานได้ไม่น้อยกว่า 7.5 หมื่นตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ/ปี หรือคิดเป็น 1.8 พันล้านบาท/ปี ซึ่งในปี 55 จะมีอาคารควบคุมภาครัฐเข้าร่วม 823 แห่ง

โดยปัจจุบันมีอาคารเป้าหมายที่จะเข้าไปส่งเสริมการประหยัดพลังงานรวม 880 แห่ง คาดว่าจะใช้งบ 6,000 ล้านบาท จะลดการใช้พลังงานอยางน้อยร้อยละ 15 สูงกว่าเป้าหมายที่ ครม.เคยมีมติให้หน่วยงานราชการลดการใช้พลังงานร้อยละ 10 ซึ่งจะมีการกำหนดแรงจูงใจ หากหน่วยงานภาครัฐประหยัดได้จะมีการจัดสรรงบประมาณชดเชยในภาคอื่นแทน

นอกจากนั้นยังเห็นชอบให้คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานจัดสรรเงินในช่วงปี 55-59 วงเงินปีละ 7 พันล้านบาท ภายในวงเงินรวม 3.5 หมื่นล้านบาท กำหนดสัดส่วนให้ใช้กับแผนประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 50% แผนพลังงานทดแทน 45% และแผนบริหารกลยุทธ 5%

ขณะที่นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า กรอบวงเงินกู้เดิม 10,000 ล้านบาท ขณะนี้ใช้ไปแล้ว 8,400 ล้านบาท โดยที่ประชุม กพช. วันนี้ยังเห็นชอบการขยายระยะเวลาการชำระคืนหนี้วงเงินกู้ยืมเดิมจาก 1 ปี เป็น 3 ปี โดยวงเงินรวมทั้งหมด 30,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถดูแลราคาพลังงานในภาพรวมได้ถึงเดือนต.ค.นี้ แม้ว่าราคาแอลพีจีในเดือนมี.ค.จะทำสถิติสูงสูดที่ 1,200 ดอลลาร์/ตัน แต่แนวโน้มเดือนเม.ย.จะมีทิศทางปรับลดลง เป็นผลมาจากแนวโน้มความต้องการของตลาดโลกลดลงหลังพ้นฤดูหนาวของยุโรป

นอกจากนี้ กพช.ยังเห็นชอบให้คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จัดลำดับความสำคัญในการใช้เงินกองทุนช่วงปี 2555-2559 วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท โดยกำหนดสัดส่วนการจัดสรรเงินกองทุนให้กับแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน50% แผนพลังงานทดแทน 45% และแผนบริหารทางกลยุทธ์ 5%

อย่างไรก็ดี ที่ประชุม กพช.วันนี้ไม่ได้มีการนำวาระการปรับโครงสร้างราคาก๊าซมาพิจารณา ทำให้มติเดิมของ กพช.ยังคงมีผลอยู่ นั่นคือการทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ในภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรม รวมถึงราคาก๊าซ NGV แต่ให้ตรึงราคา LPG ครัวเรือนถึงสิ้นปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ