ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 34.59 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 13,080.73 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 4.33 จุดหรือ 0.31% ปิดที่ 1,397.11 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 4.60 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 3,067.92 จุด
--สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่ายอดส่งออกน้ำมันของอิหร่านร่วงลงอย่างหนักในเดือนมี.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.52 ดอลลาร์ หรือ 1.44% ปิดที่ 106.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 108.25-105.16 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยให้สัญญาทองคำสามารถดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงต้นสัปดาห์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,662.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1665.0 - 1652.0 ดอลลาร์
-- สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปเริ่มผ่อนคลายลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลสเปนและอิตาลี รวมทั้งการประชุมรมว.คลังยุโรปในสัปดาห์หน้า
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.55% แตะที่ 1.3268 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3196 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.33% แตะที่ 1.5866 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5814 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.420 เยน จากระดับ 82.530 เยน และร่วงลง 0.57% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9080 ฟรังค์ จากระดับ 0.9132 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.84% แตะที่ 1.0475 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0388 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1% แตะที่ 0.8181 ดอลลาร์สหรัฐ 0.8100 ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) หลังจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ระดับ 5,854.89 จุด เพิ่มขึ้น 9.24 จุด