นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีสเปนยอมรับว่า สเปนอาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปอีกระลอก เนื่องจากสเปนกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการควบคุมยอดขาดดุลการคลัง
การแสดงความคิดเห็นของนายมอนติมีขึ้นก่อนที่รมว.คลังกลุ่มยูโรโซนจะจัดประชุมร่วมกันที่เมืองโคเปนเฮเก้นในวันที่ 30 มี.ค.นี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป ซึ่งปัจจันมีวงเงิน 5 แสนล้านยูโร หรือ 6.64 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
รัฐบาลสเปนได้แสดงความกังวลว่า สเปนอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการยอดขาดดุลในปีนี้ได้ หลังจากที่รัฐบาลรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันก็มีกระแสคาดการณ์รอบใหม่ว่า ผลผลิตด้านเศรษฐกิจของสเปนจะลดลง 1.7% ในปีนี้ ซึ่งหนักกว่าที่อียูคาดการณ์ไว้ที่ 1% และร่วงแรงกว่าที่ทางการสเปนคาดการณ์ไว้ในระดับ 1.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งภาวะเช่นนี้สุ่มเสี่ยงต่อการคว่ำบาตรจากสหภาพยุโรป (อียู)
ยอดขาดดุลรัฐบาลสเปนจะพุ่งสู่ระดับ 5.8% ของผลผลิตในประเทศในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่สเปนให้คำมั่นต่อ 27 ประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ว่าจะควบคุมตัวเลขขาดดุลไว้ที่ 4.4%
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสเปนยังคงตั้งเป้าปรับลดยอดขาดดุลให้มาอยู่ที่ 3% ในปี 2556 เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับด้านการคลังของอียู
อัตราว่างงานในสเปนพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมียอดคนตกงานมากที่สุดในภาคอุตสาหกรรมบริการ โดยกระทรวงแรงงานของสเปนเปิดเผยว่าในเดือนก.พ.มีจำนวนผู้ตกงานเพิ่มขึ้น 112,269 คนส่งผลให้สเปนมียอดผู้ตกงานอย่างเป็นทางการรวมทั้งสิ้นที่ 4,712,098 คนและทำสถิติมีจำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน