พาณิชย์เปิดเส้นทางโลจิสติกส์ ขยายการค้า-การลงทุนกับกลุ่ม BIMSTEC

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 26, 2012 11:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นางพิรมล เจริญเผ่า รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ จัดทำและกำกับดูแลการดำเนินโครงการขยายโอกาสการค้าและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเลือกศึกษาเส้นทางประเทศแถบอ่าวเบงกอล (BIMSTEC) ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 1,500 ล้านคน เหมาะแก่การขยายฐานการผลิต และแสวงหาวัตถุดิบในการผลิต รวมทั้งต่อยอดการส่งออกสินค้าที่ผลิตในประเทศนั้นๆ เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางการค้าระหว่างประเทศ

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นการรายงานผลจากการดำเนินโครงการฯ โดยที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการให้ความรู้ด้านกฎ ระเบียบ ลู่ทางการค้า การลงทุน มีกิจกรรมเข้าเยี่ยมชมโรงงานและสำรวจแหล่งธุรกิจ เพื่อหาลู่ทางในการขยายการค้าการลงทุนไทยผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์ไปยังประเทศเป้าหมายแถบอ่าวเบงกอล (BIMSTEC) ได้แก่ สหภาพเมียนมาร์ บังคลาเทศ (ธากา) และอินเดีย (กัลกัตตา) โดยมีบริษัทขนาดใหญ่จากไทยและประเทศคู่ค้า ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจกว่า 180 แห่ง ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม

ผลจากการศึกษาดังกล่าวทำให้ทราบว่า สินค้า-บริการที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูงในสหภาพเมียนมาร์ ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ก่อสร้าง กำจัดขยะ บรรจุภัณฑ์ (ขวดแก้ว ขวดพลาสติก) โรงงานอาหารสำเร็จรูป โรงแรม โรงพยาบาล ธุรกิจบริการด้านทีวี บันเทิง การจัดงานประชุม-สัมมนา สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องนุ่งห่ม

บังคลาเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป (วัตถุดิบจำนวนมาก แต่ขาดเทคโนโลยีและการผลิตและการถนอมอาหาร) สาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า กำจัดขยะ กำจัดน้ำเสีย บรรจุภัณฑ์จากแก้ว/พลาสติก และอินเดีย ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า กำจัดขยะ กำจัดน้ำเสียบรรจุภัณฑ์ (ขวดพลาสติก) อัญมณีและเครื่องประดับ

“การจัดกิจกรรมดังกล่าวประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ได้ผลทางธุรกิจกว่า 70% ภาคเอกชนไทยได้รับความรู้ด้านกฎระเบียบการค้าการลงทุน รับทราบปัญหา-อุปสรรค และแนวทางการแก้ไขอย่างแท้จริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจดำเนินธุรกิจ ทำให้เห็นภาพของตลาดจริง, พฤติกรรมผู้บริโภค, ลู่ทางที่จะขยายตลาดอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เน้นการร่วมลงทุน ทั้ง Inside-out และ Outside-in

นายยรรยง กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจและเอกชนไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ยังต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐในการแก้ไขปัญหาหรือการเจรจาระดับรัฐต่อรัฐหากจะมีการร่วมทุนอย่างจริงจัง โดยหลังจากดำเนินโครงการนี้เสร็จสิ้นแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะได้ติดตามผลอย่างใกล้ชิดในการลดอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นจากการประสานธุรกิจ โดยจะเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน และให้บริการแบบบ่มเพาะเฉพาะกลุ่มอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ