มาซาคาสึ โตโยดะ ประธานและซีอีโอของสถาบันเศรษฐกิจพลังงานของญี่ปุ่น กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิว่า นับเป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยงานที่เฝ้าติดตามด้านพลังงานนิวเคลียร์จะต้องทำหน้าที่ของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ
อุบัติเหตุด้านนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ปีที่แล้วนั้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุด้านนิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิลมาแล้วเมื่อปี 2529 กัมมันตรังสีจากโรงงานได้รั่วไหลออกมาสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ในบริเวณโดยรอบ
ในบทสัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวก่อนหน้าที่การประชุมสุดยอดความมั่นคงนิวเคลียร์จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ นายโตโยดะ กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นถึงความอ่อนแอในเรื่องการจัดการของผู้ประกอบการด้านพลังงานนิวเคลียร์และหน่วยงานติดตามด้านนิวเคลียร์
นายโตโยดะกล่าวว่า องค์กรที่เกี่ยวข้องไม่ได้เตรียมการรับมือกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่อย่างดีพอ และเสริมว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานนิวเคลียร์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเองในขณะที่นักการเมืองเป็นฝ่ายตัดสินใจ
"ญี่ปุ่นพุ่งเป้าไปที่การรับมือภายหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุและการป้องกันสารกัมมันตรังสี แต่รัฐบาลเองก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงวิธีการดำเนินการเมื่อมาตรการต่างๆไร้ซึ่งประโยชน์" นายโตโยดะกล่าว
นายโตโยดะย้ำว่า ผู้ประกอบการต้องทำงานหนักเพื่อรับประกันความปลอดภัยที่โรงงานพลังงานนิวเคลียร์ ในขณะเดียวกัน หน่วยงานติดตามพลังงานนิวเคลียร์ก็ควรจะมีบทบาทอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ นายโตโยดะยังแนะว่า หน่วยงานต่างๆจะต้องมีอิสระ ไม่เฉพาะแต่ผู้ประกอบการด้านพลังงานนิวเคลียร์เท่านั้น แต่รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองด้วยเช่นกัน
สำหรับการต่อต้านลัทธิก่อการร้ายนั้น ผลกระทบจากอุบัติเหตุนิวเคลียร์อาจจะลุกลามไปยังบริเวณชายแดน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีกลไกในระดับนานาประเทศเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา
ผู้นำจากประเทศต่างๆกว่า 50 ประเทศ และหน่วยงานสากล รวมทั้งประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และประธานาธิบดีบารัค โอบามา คาดว่า จะได้ร่วมกันทบทวนความสำเร็จต่างๆนับตั้งการประชุมสุดยอดที่วอชิงตันเมื่อปี 2553 ในการประชุมที่กรุงโซล
สำหรับผู้แทนของญี่ปุ่นในการประชุมสุดยอดได้แก่ มิยากาว่า มาคิโอะ ผู้อำนวยการฝ่ายการปลดอาวุธนิวเคลียร์ การไม่แพร่กระจาย และวิทยาศาสตร์ของกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น ได้กล่าวกับซินหัวว่า ญี่ปุ่นวางแผนที่จะเปิดเผยมาตรการชุดใหม่ เพื่อรับประกันถึงเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานนิวเคลียร์ในช่วงปลายเดือนมี.ค.หรือต้นเม.ย.นี้