นายเจฟฟรีย์ นิโคลส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทองคำระดับโลก กล่าวในงานสัมมนา "ทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนในทองคำ ท่ามกลางความผันผวน" ว่า แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นนี้คงจะปรับตัวลดลงไปทดสอบระดับต่ำสุดของปี 54 ที่ 1,522 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จากระดับราคาปัจจุบันที่ 1,660 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางถึงระยะยาวราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น โดยมองว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นทะลุระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์หรือมากกว่านั้น
ปัจจัยหนุนราคาทองคำในอนาคตมาจากการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯและยุโรป รวมทั้งความต้องการทองคำของประเทศจีนที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆยังมีแนวโน้มสะสมทองคำเพื่อใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้น ประกอบกับช่องทางการลงทุนในทองคำที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดอนุพันธ์
นายเจฟฟรีย์ กล่าวถึง สถานการณ์ตึงเครียดในประเทศอิหร่านน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่มองว่าคงไม่น่าจะเกิดสงครามภายในปีนี้ เนื่องจากปีนี้จะเป็นปีที่สหรัฐฯมีการเลือกตั้ง แต่หากเกิดสงครามจริงก็คงทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นไปถึง 200 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และคงส่งผลให่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามไปด้วย แต่คงจะมีผลแค่ในระยะสั้น ๆ เท่านั้น