ราคาสัญญาทองคำพุ่งขึ้น หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีก เพื่อผลักดันให้การฟื้นตัวของตลาดแรงงานเดินหน้าต่อและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งตลาดมองว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจประกาศใช้มาตรการ QE3
สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย.ที่มีการซื้อขายในตลาด COMEX (Commodity Exchange) พุ่งขึ้น 18.70 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 1,681.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบทันทีปรับตัวขึ้น 1% แตะ 1,678.86 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 20.58 น. ตามเวลาประเทศไทย
ราคาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ขานรับถ้อยแถลงของนายเบอร์นันเก้ต่อสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติ ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ในวันนี้ โดยประธานเฟดระบุว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังอ่อนแอ แม้ตัวเลขจ้างงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 3 เดือนติดต่อกัน และอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีก็ตาม
เขากล่าวว่า การผลิตจะต้องขยายตัวเร็วกว่านี้ และอุปสงค์จากผู้บริโภคและภาคธุรกิจจะต้องเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งกว่านี้ เพื่อผลักดันให้ตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานปรับตัวดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะต้องได้รับการสนับสนุนจากการใช้นโยบายที่ผ่อนคลายและต่อเนื่อง
เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า แม้ถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า เฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) แต่ถึงกระนั้นก็เป็นการจุดประกายความหวังว่าเรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นไปได้
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายบิล กรอส ประธานบริหารแปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเดือนเม.ย.นี้
ทั้งนี้ การใช้มาตรการ QE จะทำให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำให้คึกคักขึ้น