สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความคิดเห็นที่ค่อนข้างเป็นลบต่อตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายด้านการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.67% แตะที่ 1.3360 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3271 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.64% แตะที่ 1.5968 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5866 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.55% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.760 เยน จากระดับ 82.310 เยน และร่วงลง 0.59% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9023 ฟรังค์ จากระดับ 0.9077 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.63% แตะที่ 1.0524 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0458 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.37% แตะที่ 0.8218 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8188 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐหลังจากเบอร์นันเก้กล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ แม้ตัวเลขจ้างงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 3 เดือนติดต่อกัน และอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีก็ตาม ถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
บิล กรอส ประธานบริหารแปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า เฟดอาจจะส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนเม.ย.นี้
การแสดงความคิดเห็นของกรอสมีขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดได้ปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐในการประชุมเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับยืนยันว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2557
นอกจากนี้ การแสดงความคิดของกรอสยังสอดคล้องกับที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานก่อนหน้านี้ว่า เฟดกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเรื่องการใช้มาตรการ QE3 แต่เป็นการดำเนินการในรูปแบบที่แตกต่างไปจากมาตรการ QE1 และ QE2
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ. ร่วงลง 0.5% มาอยู่ที่ 96.5 ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนม.ค. ซึ่งการร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายของดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านสะท้อนให้เห็นว่า ยอดขายบ้านของสหรัฐยังคงหดตัวลง ในขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะฟื้นตัวขึ้น
สถาบัน GfK จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีในวันนี้เวลา 15.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมี.ค. ในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 70.0 จุดในเดือนมี.ค. ลดลงจากระดับ 70.8 จุดในเดือนก.พ.