นักวิชาการแนะเอกชนเร่งปรับตัวให้พร้อมรับมือการก้าวเข้าสู่ AEC ในปี 58

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 27, 2012 15:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยบทวิเคราะห์เรื่อง "ประเมิน 2 ปี ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)" ระบุยอดส่งออกของไทยในอาเซียนโตต่ำสุด หากปล่อยทิ้งไว้ไม่หาทางแก้ไขอาจถูกแย่งส่วนบางตลาด พร้อมเตือนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) เร่งปรับตัวเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวว่า ผลวิเคราะห์ดังกล่าวระบุว่าสินค้าส่งออกของไทย 18 รายการไปยังอาเซียนในปี 54 มีมูลค่า 7,506.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 18.7% จากปี 53 ที่มีมูลค่า 10,253.7 ล้านเหรียญฯ ซึ่งลดลงมากที่สุดในอาเซียน โดยประเทศที่มีอัตราขยายตัวการส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ บรูไน กัมพูชา เวียดนาม และพม่า ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของไทยในปี 54 อยู่ที่ 18% เพิ่มขึ้นเพียง 0.13% จากปี 53 ที่ 17.9% หรือมีอัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 4 ของอาเซียน โดยประเทศที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 คือ สิงคโปร์ 0.96% รองลงมา อินโดนีเซีย 0.52% และฟิลิปปินส์ 0.14%

สำหรับมูลค่าการส่งออกส่วนใหญ่ 80% มาจากผู้ส่งออกรายใหญ่ ขณะที่เป็นมูลการส่งออกจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีเพียง 20% คาดว่าหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 58 จะทำให้มูลค่าการส่งออกของเอสเอ็มอีไทยไปยังอาเซียนลดลงเหลือเพียง 7% ขณะที่ศักยภาพทางการค้าของไทยในอาเซียนอยู่ในระดับตกต่ำ เพราะต้นทุนค่าแรง ราคาวัตถุดิบ และต้นทุนการบริหารจัดการสูงขึ้น จนทำให้อัตราการขยายตัวและส่วนแบ่งทางการตลาดส่งออกต่ำลง

"หากปล่อยไว้ จะเห็นการย้ายฐานการลงทุนไปประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ส่วนเอสเอ็มอีจะแข่งขันได้ลำบาก และอาจล้มตายระเนระนาด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอตามห้องแถว จึงจำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน" นายอัทธ์ กล่าว

ส่วนธุรกิจดาวร่วงหลังปี 58 ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูป ที่จะย้ายฐานการลงทุนไปพม่า กัมพูชา และเวียดนาม เพราะได้เปรียบในเรื่องค่าแรงและมีวัตถุดิบมาก ไม่มีปัญหาขาดแคลนแรงงาน ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังถูกประเทศเพื่อนบ้านไล่หลัง เช่น อุตสาหกรรมผักและผลไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง เครื่องดื่มและยาสูบ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงข้าวสาร ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 6.9% ผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและถ่านหิน ผลิตภัณฑ์กระดาษและสิ่งพิมพ์ เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ