SME Bank ตั้งเป้าปี 55 สินเชื่อโต 10% มาที่ 1 หมื่นลบ.เน้นพลังงานทดแทน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 27, 2012 16:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสฬส สาครวิศวะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อในปี 55 ราว 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน โดยในปีนี้จะเน้นให้ความสำคัญกับธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของโลก

"SME ยังเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พลังงานทดแทนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ เราจะให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด อย่าง ไบโอแก๊ส โซล่าร์ฟาร์ม โดยเฉพาะโซล่าร์ฟาร์มมีโอกาสเติบโตสูง เพราะมีการพัฒนาเทคโนโลยีสูงขึ้น และมีต้นทุนต่ำกว่ากว่าในอดีตมาก ญี่ปุ่นเองพัฒนามาใช้ในระดับบ้านเรือนแล้ว"นายโสฬส กล่าว

ในช่วง 2-3 เดือนแรกของปีนี้มียอดสินเชื่อสุทธิ 600 ล้านบาท ขณะที่มีสภาพคล่องราว 7-8 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างการรอเงินเพิ่มทุนจากรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินในปีงบประมาณ 55-56 ราว 3,500 ล้านบาท จากที่ได้รับมาแล้วในปีงบประมาณ 54 ราว 600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ธนาคารดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 9-10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7%

ธนาคารตั้งเป้าลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ลงเหลือไม่เกิน 1.3 หมื่นล้านบาท จากขณะนี้ที่อยู่ในระดับ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 15% ต่อสินเชื่อรวม ซึ่งลดลงจาก 1.7 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 54

นายโสฬส กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตดีขึ้นกว่าปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยค่อนข้างมาก แต่ภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศก็ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากไทยพึ่งพาการส่งออกถึง 65% หากเศรษฐกิจต่างประเทศมีปัญหาก็จะทำให้ส่งออกลดลง กระทบต่อรายได้คนในประเทศ อำนาจซื้อก็จะลดลงไปด้วย ซึ่งจะมีผลต่ออุตสาหกรรมในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ยุโรปจะมีปัญหา แต่ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวบ้างแล้ว และเศรษฐกิจจีนก็คาดว่ายังเติบโตได้ถึง 7%

ปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ มีผลกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอีบางส่วนที่ต้องใช้แรงงานค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มสิ่งทอ เสื้อผ้า แต่เท่าที่สอบถามผู้ประกอบการหลายรายก็เตรียมปรับตัวด้วยการเปลี่ยนแปลงธุรกิจหรือไปลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงถูกกว่า และวัตถุดิบที่ราคาต่ำกว่า แต่กลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของเอสเอ็มอีส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่พึ่งพาแรงงานไม่มากนัก

อย่างไรก็ตาม เอสเอ็มอีจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อรับกับต้นทุนที่จะสูงขึ้น โดยจะต้องมีแนวทางบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุนลงในส่วนที่ลดได้ ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยยังคงจะอยู่ในระดับต่ำไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย หลังจากนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ