ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอเห็นชอบอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการต่างๆ จำนวน 11 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 83,890.6 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. กิจการผลิต แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง ของ บมจ. วนชัย กรุ๊ป (VNG) เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 150,000 ลบ.ม โดยจะเป็นการนำเศษไม้ที่เหลือจากการแปรรูปมาทำให้เป็นเส้นใย ผสมกับสารยึดติด แล้วอัดเป็นแผ่น สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และอุตสาหกรรมก่อสร้าง โครงการอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
2. กิจการผลิตโคมไฟสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ของ บมจ. ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,540 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 2,100,000 ชิ้น โดยจะผลิตและป้อนให้กับกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ผลิตอีโคคาร์ ตั้งโครงการที่จังหวัดปทุมธานี
3. กิจการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี ของบริษัท นิปปอน สตีล กัลวาไนซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 10,346 ล้านบาท กำลังการผลิตแผ่นเหล็กเคลือบสังกะสี ปีละประมาณ 360,000 ตัน ส่วนใหญ่จะจำหน่ายให้กับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ตั้งโครงการที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) จังหวัดระยอง
4. การขยายกิจการผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ ของ บริษัท ซัมมิท โอโต ซีท อินดัสตรี จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,067 ล้านบาท โดยจะผลิตเบาะรถยนต์ แผงบังแดด แผ่นฉนวนกันความร้อนและเสียง ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานพาหนะ และป้อนให้กับค่ายรถยนต์ในประเทศ ทั้งรถยนต์ธรรมดา และอีโคคาร์ กำลังการผลิตรวมปีละกว่า 8,000,000 ชิ้น ตั้งโครงการที่เขตอุตสาหกรรมของบมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
5. การขยายกิจการผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ ของบริษัท เอ็กเซดี้ (ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,891.6 ล้านบาท โดยเป็นการผลิตชิ้นส่วนสำหรับนำไปผลิตชุดเกียร์อัตโนมัติ กำลังการผลิตปีละกว่า 9,000,000 ชิ้น ตั้งโครงการที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี
6. การขยายกิจการขนส่งทางอากาศ ของ บมจ. การบินไทย (THAI) เงินลงทุนทั้งสิ้น 10,642 ล้านบาท โดยจะมีการจัดหาเครื่องบินใหม่แบบ AIRBUS 330-343 จำนวน 3 ลำ มีความจุผู้โดยสารรวม 897 ที่นั่ง และมีระวางบรรทุกสินค้ารวม 135 ตัน และการขยายกิจการขนส่งทางอากาศโครงการนี้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ปี 2553 ? 2557 ของการบินไทย
7. กิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ของบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด เงินลงทุน 880 ล้านบาท โครงการนี้จะติดตั้งแผง Solar Cell แบบ Thin Film เพื่อผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 8 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โครงการตั้งที่ อำเภอเมือง จังวหัดนครนายก
8. กิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ของบริษัท โกลเด้น ไลท์ โซล่า จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 960 ล้านบาท โครงการนี้จะติดตั้งแผง Solar Cell แบบ PolyCrystalline เพื่อผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 8 เมกะวัตต์ จำหน่ายแก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โครงการตั้งที่ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
9. กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ของบริษัท บี. กริม บีไอพี เพาเวอร์ จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 116 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 30 ตัน/ชั่วโมง โดยจะผลิตและจำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 90 เมกะวัตต์ และที่เหลือจำหน่ายให้บริษัทต่างๆ ในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ตั้งโครงการที่เขตอุตสาหกรรมของบริษัทสวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด จังหวัดปทุมธานี
10. กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ของบริษัท กัลฟ์ เจพี ยูที จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 47,733 ล้านบาท โครงการนี้เป็นการผลิตไฟฟ้าประเภท IPP (Independent Power Producers) จำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังการผลิตไฟฟ้า 1,600 เมกะวัตต์ ตั้งโครงการที่ เขตอุตสาหกรรมของบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
11. กิจการผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนทิ้งของกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ ของบริษัท เอเซียซีเมนต์ เอ็นเนอจี คอนเซอร์เวชั่น จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,331 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ของบริษัท เอเชียซีเมนต์ จำกัด (มหาชน) โครงการอยู่ที่จังหวัดสระบุรี