คณะกรรมาธิการยุโรปรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของผู้บริหารและผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 94.4 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 94.5 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า อาจเป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจของภูมิภาคจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสแรกปีนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ผลิตของยุโรปร่วงลงสู่ระดับ -7.2 ในเดือนมี.ค. จากระดับ -5.7 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการลดลงแตะ -0.3 จาก -0.9 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -19.1 จาก -20.3
ด้วยเหตุที่รัฐบาลหลายประเทศในยุโรปเดินหน้าใช้มาตรการควบคุมรายจ่ายเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ ขณะที่ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นได้ลดทอนอำนาจซื้อของภาคธุรกิจและผู้บริโภค จึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่เศรษฐกิจยูโรโซนจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่หดตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
รายงานก่อนหน้านี้เผยให้เห็นว่า ผลผลิตภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนในเดือนมี.ค.หดตัวมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราว่างงานในยูโรโซนปรับตัวขึ้นแตะ 10.7% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่าสิบปี
คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนีอาจขยายตัว 0.6% ในปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจอิตาลี สเปน เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และกรีซ กำลังหดตัว สำหรับเศรษฐกิจของทั้งเขตยูโร คาดว่าอาจหดตัว 0.3% ในปี 2555 ก่อนที่กลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง
ด้านธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คาดการณ์เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวประมาณ 0.1% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดการคาดการณ์ลงจากเดิมที่ประเมินว่าน่าจะขยายตัวได้ 0.3%