สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรํฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังระวังก่อนที่รัฐบาลสเปนจะเสนอร่างงบประมาณต่อรัฐสภาในช่วงสุดสัปดาห์ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เตือนว่า กรีซอาจจะต้องปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้ง
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.14% แตะที่ 1.3295 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3314 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.36% แตะที่ 1.5945 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดัล 1.5888 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.52% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.420 เยน จากระดับ 82.850 เยน แต่ขยับขึ้น 0014% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9065 ฟรังค์ จากระดับ 0.9052 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.10% แตะที่ 1.0380 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0390 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.05% แตะที่ 0.8167 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8171 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่รัฐบาลสเปนจะเสนอร่างงบประมาณต่อรัฐสภาในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าทางเศรษฐกิจของกรีซ หลังจากเอสแอนด์พีเตือนว่า กรีซอาจจะต้องปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลอิตาลีสามารถขายพันธบัตรที่มีกำหนดไถ่ถอนในปี 2565 ได้ 3.25 พันล้านยูโร โดยให้อัตราผลตอบแทน 5.24% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2554 และลดลงจากระดับ 5.5% ในการประมูลครั้งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ก.พ. สำหรับความต้องการซื้อพันธบัตรสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ 1.65 เท่า เปรียบเทียบกับอัตราเฉลี่ยที่ 1.40 เท่าในการประมูลเดือนที่แล้ว
การประมูลพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีในวันนี้มีขึ้นในขณะที่รมว.คลังยูโรโซน หรือ ยูโรกรุ๊ป มีกำหนดประชุมร่วมกันที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถในการปล่อยกู้ของกองทุนคุ้มครองยูโรโซนเพื่อป้องกันวิกฤตหนี้ลุกลาม โดยบรรดารัฐมนตรีคลังของ 17 ประเทศที่ใช้สกุลยูโรกำลังพิจารณาแผนการรวมกองทุน EFSF ซึ่งเป็นกองทุนชั่วคราวมูลค่า 4.4 พันล้านยูโร และ ESM ซึ่งเป็นกองทุนถาวรมูลค่า 5 พันล้านยูโร เข้าด้วยกันในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการปล่อยกู้ของกองทุนเพิ่มขึ้น
ขณะที่สำนักงานแรงงานของรัฐบาลกลางเยอรมนีรายงานว่า จำนวนคนว่างงานในเดือนมี.ค.หลังจากที่ปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ลดลง 18,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 2.84 ล้านคน มากกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะลดลงเพียง 10,000 ราย ขณะที่อัตราว่างงานเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 6.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี
การปรับตัวลงของจำนวนคนว่างงานสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจเยอรมนีสามารถต้านทานวิกฤตหนี้สาธารณะได้ นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัว 0.6% แต่คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวลง 0.3% ในปี 2555
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัว 3% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเท่ากับตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ จีดีพีไตรมาส 4 ยังขยายตัวไตรมาสที่ 10 ติดต่อกัน อีกทั้งยังเป็นอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 3
รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงปลายเดือนมี.ค.ในวันนี้เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 74.7 ในช่วงปลายเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 74.3 ในช่วงต้นเดือนมี.ค.