บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า จากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยภายหลังจากน้ำลดที่สะท้อนผ่านเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนก.พ.ในหลายมิติมากขึ้นกว่าในเดือนม.ค. ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะสามารถพลิกกลับมาขยายตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 1/55 ประมาณ 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยอัตราการเติบโตที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำมากนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยเรื่องฐานการคำนวณเปรียบเทียบที่สูงของไตรมาสที่ 1/54
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าแรงผลักดันการเติบโตที่สำคัญจะมาจากการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งหมายความรวมถึงการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค การลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่เร่งขึ้นหลังน้ำลดอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม การหดตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคการส่งออก ยังน่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 1/55 ประมาณ 5% และ 0.5% ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2/55 ด้วยภาพในเชิงบวกของเครื่องชี้เศรษฐกิจในทุกภาคส่วน โดยการใช้จ่ายในประเทศ การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการส่งออก น่าจะบันทึกอัตราการขยายตัวโดยพร้อมเพรียงกัน และน่าจะทำให้เส้นทางการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเริ่มมีภาพที่ชัดเจนกว่าในช่วงไตรมาสที่ 1/55 ก่อนจะเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 55 ซึ่งจะมีสภาพแวดล้อมที่ท้าทายต่อการประคับประคองโมเมนตัมมากขึ้น ทั้งในเรื่องของต้นทุนการผลิต ค่าครองชีพ และแรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศ ตลอดจนทิศทางเศรษฐกิจต่างประเทศที่ยังอาจสะท้อนภาพเชิงลบจากการชะลอตัวของจีน และวิกฤตหนี้ยุโรป อย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไทยทั้งปี 55 ที่กรอบ 4.5-6.0% โดยมีคาดการณ์กรณีพื้นฐานที่ 5%โดยต้องติดตามประเด็นค่าครองชีพ และภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะมีแรงกดดันที่สูงขึ้น และทำให้ภาพรวมของอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 55 ทรงตัวอยู่ในระดับสูง 3.9% ใกล้ค่าเฉลี่ยในปี 54