สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท รายงานว่า อัตราว่างงานในยูโรโซนได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรที่ 10.8% ในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจาก 10.7% ในเดือนก่อนหน้า และพุ่งขึ้นจากระดับ 10.0% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ตลาดแรงงานยูโรโซนอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ท่ามกลางวิกฤตหนี้และภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดการเงิน
สำหรับอัตราว่างงานในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศ อยู่ที่ 10.2% ในเดือนก.พ. ขยับขึ้น 0.1% จากเดือนม.ค. และเพิ่มขึ้นจากระดับ 9.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยูโรสแตทประเมินว่า จำนวนผู้ไม่มีงานทำในเดือนก.พ. อยู่ที่ 24.55 ล้านคนในอียู และ 17.13 ล้านคนในยูโรโซน
เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. จำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้น 172,000 คนในอียู และเพิ่มขึ้น 167,000 คนในยูโรโซน และเมื่อเทียบกับเดือนก.พ. 2554 จำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้น 1.87 ล้านคนในอียู และเพิ่มขึ้น 1.48 ล้านคนในยูโรโซน
ในบรรดาประเทศสมาชิก ออสเตรียเป็นประเทศที่มีอัตราว่างงานต่ำที่สุด ที่ระดับ 4.2% ส่วนประเทศที่มีอัตราว่างงานสูงสุดคือ สเปน โดยแตะที่ระดับสูงถึง 23.6% ในเดือนก.พ.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถานการณ์ด้านแรงงานในยุโรปยังคงย่ำแย่กว่าในสหรัฐและญี่ปุ่น โดยอัตราว่างงานในสหรัฐอยู่ที่ระดับ 8.3% ในเดือนก.พ. ขณะที่ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.7%