สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานในอิตาลีปรับตัวขึ้นแตะ 9.3% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2544 จากระดับ 9.1% ในเดือนม.ค. ขณะที่จำนวนคนว่างงานอยู่ที่ 2.3 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547
อัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่ม-สาวน่าเป็นห่วงเป็นพิเศษ โดยพบว่า 31.9% ของประชากรอายุระหว่าง 15-24 ปี ไม่มีงานทำ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลอิตาลีได้อนุมัติมาตรการปฏิรูปด้านแรงงานที่รอกันมานาน โดยนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ กล่าวว่า การปฏิรูปดังกล่าวจะช่วยลดการว่างงานและดึงดูดนักลงทุน ซึ่งจะนำไปสู่การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอิตาลี ซึ่งประสบกับภาวะถดถอย
ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งจะต้องผ่านการลงมติเห็นชอบจากรัฐสภาในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านั้น ครอบคลุมถึงการเพิ่มสวัสดิการว่างงาน การลดสัญญาการทำงานชั่วคราว และเพิ่มความยืดหยุ่นเรื่องการไล่พนักงานออก ซึ่งมาตรการสุดท้ายนี้ถูกคัดค้านจากพรรคประชาธิปไตยกลาง-ซ้าย ซึ่งเป็นกำลังสนับสนุนหลักทางการเมืองของรัฐบาลนายมอนติ รวมถึง CGIL ซึ่งเป็นกลุ่มสหภาพการค้าที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้การไล่พนักงานออกเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น
นายกฯมอนติกำลังดำเนินมาตรการลดรายจ่ายและขึ้นภาษี เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณในปีหน้า และลดหนี้สาธารณะซึ่งอยู่ในระดับสูงถึง 1.9 ล้านล้านยูโร อย่างไรก็ดี มาตรการเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่า เศรษฐกิจอิตาลีจะหดตัว 1.3% ในปีนี้