กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างภายในประเทศลดลง 1.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 7 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 8.0886 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% สะท้อนให้เห็นว่า ยังต้องใช้เวลากว่าที่ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างจะกลับมามีเสถียรภาพ
ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.พ.ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ปรับตัวลง 0.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนขึ้นอย่างมากจากระดับ 0.1% ในการรายงานเดือนที่แล้ว
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขใช้จ่ายลดลงนั้นเป็นเพราะโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนปรับตัวลดลง
การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในภาคเอกชนร่วง 0.8% ซึ่งเป็นการลดลงเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยการใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยทรงตัว ส่วนโครงการก่อสร้างที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยร่วงลง 1.6% อันเนื่องมาจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ลดลง
ขณะที่การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในภาคสาธารณะลดลง 1.7% ในเดือนก.พ. จากเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของรัฐบาลกลางที่เพิ่มขึ้น 1.9% ถูกหักลบด้วยการใช้จ่ายที่ลดลงของรัฐบาลระดับรัฐและท้องถิ่น