นายสิงห์ชัย บุณยโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายจุดในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะที่โรงแรมลี การ์เด้นส์ จ.สงขลา ไม่ได้กระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ เห็นได้ตลาดเงิน ที่ภาวะการเคลื่อนย้ายเงินทุนทั้งขาเข้าและออกยังมีความเป็นปกติ
โดยค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐยังคงเคลื่อนไหวตามทิศทางของค่าเงินสกุลหลักในภูมิภาคใน 2 ทิศทางคือทั้งการอ่อนค่าและแข็งค่าอย่างสมดุล ส่งผลให้ ธปท.ยังไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงตลาดมากนัก และยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเข้าไปดูแล
อย่างไรก็ตามแม้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในสัดส่วนที่สูงขึ้นเป็น 10% เมื่อเทียบกับต้นปีที่อยู่ที่ 7-8% แต่ ธปท.ยังไม่มีความกังวลจนต้องออกมาตรการกันสำรองเงินทุนระยะสั้น 30% เนื่องจากเป็นการปรับพอร์ตการลงทุนจากที่เคยลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของประเทศอินโดนีเซียสูงถึง 30% เท่านั้น เนื่องจากอินโดนีเซียประสบกับปัญหาเรื่องน้ำมันแพงจนเกิดปัญหาภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น
“ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวค่อนข้างเหมาะสม มีทั้งคนซื้อคนขาย มีทั้งยอมรับความเสี่ยงและปิดรับความเสี่ยง ประกอบกับช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรที่มีกระทบกับค่าเงินด้วย ทั้งยุโรป กรีช สหรัฐฯเองก็เงียบๆกันไปหมด การเคลื่อนย้ายเงินทุนก็ค่อนข้างสมดุล ไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงตลาดมากนัก" นายสิงห์ชัย กล่าว
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ธปท. กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 เม.ย.) ธปท.ได้ประชุมผ่านระบบวีดีโอทางไกล (Video Conference) ร่วมกับธปท.สำนักงานภาคใต้ เพื่อสอบถามและประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งทางสำนักงานภาคใต้ก็ยอมรับว่า มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของทางภาคใต้อยู่บ้าง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบด้านอื่นๆ
"เท่าที่เราประชุมร่วมกับสำนักงานภาคใต้ เขาก็กำลังติดตามผลกระทบอยู่ ซึ่งเบื้องต้นเขาเองก็ยอมรับว่าคงมีผลกระทบกับการท่องเที่ยวแถบภาคใต้อยู่บ้าง ยิ่งเหตุช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ด้วย แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นคงเป็นเฉพาะในภาคใต้ ไม่น่ากระทบต่อการท่องเที่ยวโดยรวมของทั้งประเทศ" นายสรสิทธิ์ กล่าว