ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนขายพันธบัตรได้น้อยกว่าเป้าหมาย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.2% ปิดที่ 258.50 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 1 เดือน
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,313.47 จุด ลดลง 93.31 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 6,784.06 จุด ลดลง 198.22 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5,703.77 จุด ลดลง 134.57 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) ทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมีรายงานว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีและสเปนปรับตัวสูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 124.80 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 13,074.75 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 14.42 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 1,398.96 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 45.48 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 3,068.09 จุด
--สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะซบเซาของอุปสงค์พลังงานภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 2.54 ดอลลาร์ หรือ 2.44% ปิดที่ 101.47 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 104.12 - 101.08 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรุดฮวบลงเกือบ 58 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3 นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า รัฐบาลอินเดียจะขึ้นภาษีการนำเข้าทองคำเป็น 2 เท่า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 57.9 ดอลลาร์ หรือ 3.46% ปิดที่ 1,614.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1622.0 - 1614.1 ดอลลาร์
-- สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตือนว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าอีซีบีอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการรเงินเพิ่มเติม
สกุลเงินยูโรร่วงลง 0.70% แตะที่ 1.3141 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3233 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.15% แตะที่ 1.5888 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5912 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.47% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.440 เยน จากระดับ 82.830 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.69% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9157 ฟรังค์ จากระดับ 0.9094 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.70% แตะที่ 1.0256 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0328 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.61% แตะที่ 0.8142 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8192 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3 และหลังจากมีรายงานว่าต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลสเปนและอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,703.77 จุด ลดลง 134.57 จุด