นายยุคล ลิ้มแหลมทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านความมั่นคงอาหารตลอดห่วงโซ่ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ ที่สอดคล้องกับความมั่นคงด้านอาหาร เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ทั้ง 10 ข้อ ภายใต้ยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ 1 ภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืน บริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการผลิตอาหารอย่างมีประสิทธิภาพโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ได้แก่ 1. เร่งรัดปฏิรูปการถือครองที่ดินและการคุ้มครองพื้นที่การเกษตร 2. จัดการทรัพยากรน้ำ และดินเพื่อการเกษตร และป่าชุมชน
3. สร้างความสมดุลระหว่างพืชอาหารกับพืชพลังงาน 4. พัฒนาประสิทธิภาพการผลิตอาหาร 5. สร้างแรงจูงใจในการทำการเกษตร และเพิ่มจำนวนเกษตรกรรุ่นใหม่ 6. ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารในระดับชุมชนและครัวเรือน 7. ปรับปรุงและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านสินค้าเกษตรและอาหาร
8. สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในการรักษาความมั่นคงด้านอาหาร 9. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่อาหาร และ 10. การจัดระบบเพื่อรองรับความมั่นคงด้านอาหารในภาวะวิกฤต
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นอีก 1 ชุด เพื่อจัดทำการศึกษา และกำหนดกรอบนโยบาย ตลอดจนแนวทางการดำเนินการขับเคลื่อนด้านความมั่นคงด้านอาหาร ในประเด็นด้านความสมดุล อาหาร อาหารสัตว์ และพลังงาน เพื่อพิจารณาประกอบการกำหนดทิศทางการดำเนินงานและเสนอต่อคณะกรรมการอาหารแห่งชาติต่อไป โดยได้มอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นประธานคณะอนุกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ
ยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านความมั่นคงด้านอาหาร ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านอาหารศึกษา และยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการบริหารจัดการ