ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวลดลง เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนทำให้นักลงทุนกังวลว่า ยูโรโซนยังไม่สามารถควบคุมวิกฤตหนี้ได้ ซึ่งความกังวลดังกล่าวบดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 47.08 จุด หรือ 0.36% แตะ 13,027.67 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลบ 4.46 จุด หรือ 0.32% ที่ระดับ 1,394.50 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 6.21 จุด หรือ 0.20% แตะ 3,061.88 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากรัฐบาลสเปนขายพันธบัตรระยะกลางได้เพียง 2.6 พันล้านยูโร (3.4 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ 3.5 พันล้านยูโร ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า ภาระหนี้สินของรัฐบาลสเปนอาจสูงขึ้น
รัฐบาลสเปนคาดการณ์ว่า สัดส่วนหนี้สินของสเปนอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 79.8% ของจีดีพีในปี 2555 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2533 ขณะที่ตลาดแรงงานของสเปนก็ถดถอยลงอย่างมาก เนื่องจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นเกือบ 39,000 ราย แตะระดับกว่า 4.75 ล้านคน ณ สิ้นเดือนมี.ค.
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป อันเนื่องมาจากความผิดหวังที่มีต่อผลการประมูลพันธบัตรสเปนนั้น ได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. ลดลง 6,000 ราย แตะที่ 357,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2551 ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์นั้น ลดลง 4,250 ราย แตะ 361,750 ราย
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะทรงตัวที่ 8.3%