ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 เม.ย.) หลังการเทขายรุนแรงในครั้งก่อน ในขณะที่ยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วลดลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่รอบ 4 ปี
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 103.31 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับสัปดาห์นี้ ราคาปรับขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.28%
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ค.ดีดขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 123.43 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับสัปดาห์นี้ ราคาบวก 55 เซนต๋ หรือ 0.45%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แรงเทขายรุนแรงได้รับแรงกระตุ้นเมื่อวันพุธ หลังจากที่สต็อคน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 9 เดือน ซึ่งมีอิทธิพลมากกว่าความวิตกเกี่ยวกับความผันผวนของอุปทานของอิหร่านที่อาจจะเป็นไปได้ โดยสัญญาน้ำมันดิบทั้งในตลาดนิวยอร์คและลอนดอนร่วงลงกว่า 2%
เมื่อคืนนี้ ตลาดดีดตัวขึ้นทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นของสหรัฐลดลงต่อไป 6,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. สู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่รอบ 4 ปี ซึ่งการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐหนุนความเชื่อมั่นของตลาด
แต่ปัจจัยที่ถ่วงตลาดน้ำมันยังคงอยู่ ความวิตกเกี่ยวกับหนี้สินของสเปน, แนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปในระยะใกล้ และความหวังที่น้อยนิดในการใช้มาตรการ QE3 สร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน และบรรดาประเทศตะวันตกอาจจะระบายน้ำมันจากคลังน้ำมันทางยุทธศาสตร์ในระยะใกล้เพื่อควบคุมราคาเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับสูง ดอลลาร์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น เนื่องจากไม่มีการพิมพ์เงินใหม่ต่อไปในสหรัฐและจากนโยบายเชิงผ่อนคลายในยุโรป
ตลาดน้ำมันโลกจะปิดทำการในคืนนี้ เนื่องในวันหยุดกู๊ด ฟรายเดย์