นายจุน อาซูมิ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวในวันนี้หลังการประชุมร่วมกับนายเซียะ ซูเหริน รมว.คลังจีนว่า ญี่ปุ่นและจีนอยู่ระหว่างพิจารณาบทบาทที่มีความเป็นไปได้ในการช่วยเพิ่มทุนทรัพย์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อป้องกันวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรป ซึ่งได้ถ่วงเศรษฐกิจโลก
ขณะที่นายจุนปฏิเสธข่าวที่ว่าญี่ปุ่นและจีน ซึ่งเป็น 2 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นที่ว่าจะขยายเงินสมบทเพิ่มเติมแก่ไอเอ็มเอฟนั้น เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าญี่ปุ่นและจีนจะยังคงหารือในประเด็นดัวกล่าวผ่านทาง “หลายช่องทาง"
นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำว่าญี่ปุ่นจะตัดสินใจเกี่ยวกับสถานภาพของญี่ปุ่นในการประชุมรัฐมนตรีคลังจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 20 ประเทศหรือจี-20 ในเดือนนี้ที่วอชิงตัน
นายอาซูมิกล่าวว่า เขาและนายเซียะได้เห็นพ้องกันว่า “วิกฤติยังไม่สิ้นสุดลง แต่เศรษฐกิจโลกกำลังปรับตัวในทิศทางที่ดี" และกล่าวเสริมว่า “เศรษฐกิจเอเชียต้องนำขบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก"
เมื่ออิงกับรายงานสรุปของฝ่ายจีน นายอาซูมิเน้นย้ำว่าคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ
นายอาซูมิและนายเซียะได้หารือกันในกรุงโตเกียวในการเปิดการหารือนโยบายการเงินครั้งล่าสุดระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับดำเนินงานของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งได้จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี
เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นและจีนกำลังดำเนินการในรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่ญี่ปุ่นจะเริ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลจีนและทั้งสองประเทศจะส่งเสริมการใช้สกุลเงินเยนและเงินหยวนในการชำระบัญชีการค้าทวิภาคี แทนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเพิ่มทุนทรัพย์ของไอเอ็มเอฟที่อาจจะมีขึ้นนั้น ญี่ปุ่นและจีนได้แสดงความพร้อมเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาในการสนับสนุนความพยายามของไอเอ็มเอฟที่จะจัดการวิกฤติหนี้ในยูโรโซน โดยนายอาซูมิได้เดินทางเยือนจีนและจัดการหารือร่วมกับนายเซียะ รวมทั้งนายหวัง ฉีซาน รองนายกรัฐมนตรีจีนด้วย
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวจะมีความสำคัญสูงสุดในวาระการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มจี-20 ซึ่งมีกำหนดจะประชุมกันในวันที่ 19-20 เม.ย.นี้ในวอชิงตัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน