ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(เอดีบี) คาดการณ์การอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ของประเทศไทยในปี 55 ที่ 5.5% จาก 0.1% ในปี 54 โดยมีการเติบโตภาคเอกชนจะเป็นตัวสนับสนุน GDP ประกอบกับการเพิ่มเงินเดือนข้าราชการในเดือน ม.ค. การเพิ่มค่าจ้างค่าแรงขั้นต่ำ 40% ในเดือนเม.ย. ประกอบกับรัฐบาลออกมาตรการจูงใจลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก รถคันแรก ส่งผลความเชื่อมั่นการบริโภคฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ลดลงอย่างมากในช่วงน้ำท่วมในไตรมาส 4/54
นอกจากนั้น ยอดขายรถยนต์เริ่มปรับตัวดีขึ้นในเดือนม.ค.และก.พ.55 หลังจากลดลงอย่างมากถึง 62% ในเดือนพ.ย.54 ทางด้านการลงทุนได้รับการสนับสนุนจากกิจกรรมการฟื้นฟูภายหลังน้ำท่วมทั้งภาครัฐและเอกชน และมีการทดแทนเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม, ธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้รับเงินกู้ซอฟท์โลนจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
นอกจากนี้ พบว่าสัญญาณการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ อัตราการใช้กำลังการผลิตฟื้นตัวในเดือนก.พ. อยู่ที่ 62.3% ปรับตัวดีขึ้นจาก 40.1 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในเดือนพ.ย. 54 ดัชนีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสูงกว่าระดับก่อนน้ำท่วม จำนวนนักท่องเที่ยว 2 เดือนแรก เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5.2% นอกจากนี้ยังมีงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลและภาครัฐที่ใช้เงินนอกงบประมาณเพื่อฟื้นฟูน้ำท่วม
ขณะที่ คาดว่าการส่งออกจะขยายตัว 15% นำเข้าขยายตัว 23% เป็นผลจากการเร่งนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์การผลิต การใช้จ่ายที่เริ่มฟื้นขึ้น ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดจะขาดดุล 0.5% ของ GDP ในปี 56 และเงินทุนต่างประเทศจะไหลเข้าตลาด Bond ไทยประมาณ 20% จากในช่วง 2 เดือนแรกของปีมีเงินทุนไหลเข้ามาแล้ว 2 หมื่นล้านบาท
ส่วนเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ที่ 3.4% ในปี 55 และ 3.3% ปี 56 หนี้สาธารณะจะอยู่ที่ 46.8% ของ GDP และ 50.4% ของ GDP ในปี 56 จากการกู้ยืมเงินของรัฐในการบริหารจัดการน้ำ แต่ยังอยู่ในระดับบริหารจัดการได้