นายเบนัวต์ โคเออร์ สมาชิกบอร์ดผู้บริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบียังมีโครงการซื้อหลักทรัพย์ (SMP) ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ทางธนาคารสามารถซื้อพันธบัตรของประเทศสมาชิกยูโรโซนได้หากมีความจำเป็น
นายโคเออร์มีถ้อยแถลงดังกล่าวหลังจากที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสเปนอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นกว่า 1% นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม จนเกือบแตะ 6% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากรัฐบาลสเปนโดยการนำของนายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราจอย ไม่สามารถทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นได้ว่า รัฐบาลจะลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณและลดการใช้จ่ายได้
ขณะเดียวกันตลาดกำลังจับตาดูว่า หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนกลับไปอยู่เหนือระดับ 6% ทางอีซีบีจะทำอย่างไร หลังจากที่ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีย้ำตลอดว่า บัดนี้รัฐบาลของแต่ละประเทศมีหน้าที่รับมือกับวิกฤตด้วยตัวเอง ไม่ใช่หน้าที่ของอีซีบี
ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสเปนแถลงปรับลดงบประมาณประจำปี 2555 ลง 2.7 หมื่นล้านยูโร (3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการรัดเข็มขัดครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีราจอยได้เตือนถึงการควบคุมเงินงบประมาณอย่างเข้มงวด
การปรับลดงบประมาณครั้งนี้จะรวมถึงการตรึงเงินเดือนพนักงานภาครัฐและลดงบประมาณในหน่วยงานต่างๆ ลง 16.9% ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานเผยว่าจะปรับขึ้นค่าไฟฟ้า 7% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย โดยมาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณของสเปนลงมาอยู่ที่ 5.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากระดับ 8.5% ในปี 2554
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจและหนี้สินของสเปน หลังรัฐบาลคาดการณ์ว่า สัดส่วนหนี้สินของสเปนอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 79.8% ของจีดีพีในปี 2555 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2533 ขณะที่ตลาดแรงงานของสเปนก็ถดถอยลงอย่างมาก เนื่องจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นเกือบ 39,000 ราย แตะระดับกว่า 4.75 ล้านคน ณ สิ้นเดือนมี.ค.