น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เช่น นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 4 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 19-22 เม.ย.55 เพื่อยืนยันบทบาทของไทยในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา
การเข้าร่วมการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 4 มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเน้นย้ำถึงบทบาทของไทยในฐานะหุ้นส่วนร่วมกับญี่ปุ่นในการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืน อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และโดยเฉพาะการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งไทยได้รับการยอมรับ รวมทั้งสร้างความมั่นใจต่อมาตรการของไทยในการจัดการภัยภิบัติ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีจะได้ยืนยันถึงความพร้อมในการร่วมมือกับญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับภัยภิบัติได้ ครอบคลุมถึงการเชื่อมโยงอนุภูมิภาค และความมั่นคงมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายเกี่ยวกับเด็กและสตรีที่ไทยให้ความสำคัญ
โดยการประชุมในครั้งนี้มีนัยยะสำคัญ เนื่องจากจะมีการรับรองเอกสาร Tokyo Strategy for Mekong-Japan Cooperation ซึ่งจะกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อจัดทำเสาหลักในการพัฒนาความร่วมมือในช่วง 3 ปีข้างหน้า ได้แก่ เสาหลักที่ 1 เสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เสาหลักที่ 2 การพัฒนาไปพร้อมกัน และเสาหลักที่ 3 การรักษาความมั่นคงของมนุษย์และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม
การประชุมสุดยอดผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ประกอบด้วย ไทย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และญี่ปุ่น โดยเป็นการประชุมระดับผู้นำ ซึ่งญี่ปุ่นเป็นผู้ริเริ่มความร่วมมือนี้โดยจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ Mekong-Japan ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนม.ค.51 โดยการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อการประชุมอาเซียน ซัมมิท ที่บาหลี ที่ผ่านมาเน้นการจัดการกับปัญหาภัยภิบัติ และบริหารทรัพยากรน้ำญี่ปุ่น เกิดจากการที่ญี่ปุ่นต้องการมีบทบาทที่ชัดเจนขึ้นในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อลดช่องว่างทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาระหว่างอาเซียนเพื่อความแข็งแกร่งของอาเซียน ซึ่งจะนำไปสู่สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของทวีปเอเชียต่อไป โดยญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือให้กับ 4 ประเทศในลุ่มน้ำโขง ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ในด้านต่างๆ