สำนักงานสถิติแห่งชาติของกรีซ หรือ ESTAT เปิดเผยว่า อัตราว่างงานในประเทศปรับตัวสูงขึ้นแตะ 21.8% ในเดือนม.ค.ปีนี้ จากระดับ 21.2% ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่กรีซถูกวิกฤตหนี้รุมเร้าอย่างหนัก ขณะที่นักวิเคราะห์ของกรีซมองว่า อัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นนี้ยังถือเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
จากสถิติอย่างเป็นทางการ พบว่า คนหนุ่มสาวได้รับผลกระทบหนักสุด โดยมีประชากรในวัย 15-24 ปี ตกงานถึง 50.8%
สหภาพแรงงานและผู้เชี่ยวชาญอิสระประมาณการว่า ตัวเลขว่างงานที่แท้จริงอาจสูงกว่าข้อมูลที่รัฐบาลรายงาน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการรัดเข็มขัดที่เพิ่มมากขึ้นและเข้มงวดมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่รัฐบาลได้นำมาใช้เพื่อต่อสู้กับวิกฤตหนี้
การตัดลดงบประมาณและการขึ้นภาษีที่รัฐบาลกรีซประกาศใช้ ซึ่งเป็นความพยายามหนึ่งที่ช่วยให้กรีซได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้นั้น ได้บีบรัดภาคธุรกิจและจุดปะทุให้การว่างงานเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่และนักเศรษฐศาสตร์ของกรีซและต่างประเทศได้ถกเถียงกันถึงแนวทางที่จะช่วยส่งเสริมการจ้างงานและการขยายตัวของกรีซในขณะนี้ ซึ่งก็คือการปฏิรูปและนโยบายต่างๆที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนา นอกเหนือไปจากการลดค่าแรงและการขึ้นภาษี