เจ้าหน้าที่รัฐบาลของญี่ปุ่นรายหนึ่งเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาปล่อยเงินกู้ประมาณ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งเป็นมาตรการฉุกเฉินเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองทุนป้องกันวิกฤติการเงินโลกลุกลามอันเนื่องมาจากวิกฤติหนี้สินในยุโรป
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังหารือกับประเทศสมาชิกที่สำคัญของไอเอ็มเอฟ เช่น จีน และ สหภาพยุโรป เพื่อตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการร่วมกันจ่ายเงินสมทบให้กับไอเอ็มเอฟ ในช่วงก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศจี-20 ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้ในวอชิงตัน
หากได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว ญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในประเทศผู้จ่ายเงินกู้ยืมสมทบรายใหญ่สุด โดยคาดว่าจีนอาจจะจ่ายเงินสมทบในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ ซึ่งบางประเทศยังคงเรียกร้องให้ผู้นำประเทศยุโรปเพิ่มความพยายามช่วยเหลือตัวเองเป็นอันดับแรก
ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นอันดับสองในไอเอ็มเอฟรองลงมาจากสหรัฐ ได้แสดงความพร้อมในการนำเรื่องไอเอ็มเอฟมาหารือในที่ประชุมจี-20 เนื่องจากสหรัฐได้แสดงความลังเลที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขนาดเงินกองทุนให้กับไอเอ็มเอฟในเชิงรุก
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้แสดงความยินดีกับการตัดสินใจเมื่อไม่นานมานี้ของรัฐมนตรีคลังยุโรปในการเพิ่มขนาดเงินกองทุนให้ความช่วยเหลือชั่วคราวเป็น 7 แสนล้านยูโรจาก 5 แสนล้านยูโร เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤติการเงินในกรีซ ไอร์แลนด์ และ โปรตุเกส ลุกลามออกไปยังประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่า เช่น สเปน และ อิตาลี
ถึงแม้ว่าจะยังมีการเรียกร้องให้กลุ่มประเทศยูโรโซนดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติ แต่การประชุมจี-20 ก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการเพิ่มขนาดกองทุนให้ความช่วยเหลือในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้
ก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐระบุว่า ต้องการเพิ่มศักยภาพในการปล่อยเงินกู้อีก 5 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทางการเงินของประเทศสมาชิกในปีต่อๆไป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน