กรีซขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 1.625 พันล้านยูโร (2.12 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลวันนี้ โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ 4.20% ซึ่งลดลง 0.05% จาก 4.25% ในการประมูลเมื่อเดือนมี.ค.
ในการประมูลครั้งนี้ มีความต้องการจองซื้อตั๋วเงินคลังสูงกว่าจำนวนที่นำออกขายอยู่ 2.46 เท่า ซึ่งลดลงจากการประมูลครั้งก่อนที่ 2.69 เท่า
นักลงทุนต่างก็จับตาการประมูลตราสารหนี้ในยูโรโซน หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนพุ่งสูงขึ้นกว่า 6% ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของตลาดเกี่ยวกับศักยภาพของรัฐบาลในการจัดการยอดขาดดุลและในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานสถิติแห่งชาติของกรีซ หรือ ESTAT เปิดเผยว่า อัตราว่างงานในประเทศปรับตัวสูงขึ้นแตะ 21.8% ในเดือนม.ค.ปีนี้ จากระดับ 21.2% ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่กรีซถูกวิกฤตหนี้รุมเร้าอย่างหนัก ขณะที่นักวิเคราะห์ของกรีซมองว่า อัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นนี้ยังถือเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
สหภาพแรงงานและผู้เชี่ยวชาญอิสระประมาณการว่า ตัวเลขว่างงานที่แท้จริงอาจสูงกว่าข้อมูลที่รัฐบาลรายงาน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการรัดเข็มขัดที่เพิ่มมากขึ้นและเข้มงวดมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่รัฐบาลได้นำมาใช้เพื่อต่อสู้กับวิกฤตหนี้
ทั้งนี้ กรีซได้ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศเมื่อปี 2553 ซึ่งต้องแลกกับการรัดเข็มขัดและดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ