ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนหลังศก.ฟื้นหนุนนักลงทุนถือเงินยีลด์สูง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday April 18, 2012 07:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินเยนและดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าไปถือครองสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า โดยเฉพาะสกุลเงินของประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลักอย่างนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 0.58% สู่ระดับ 80.860 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 80.390 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐเกือบทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9150 ฟรังค์ จากระดับ 0.9145 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรเกือบทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.3128 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3138 ดอลลาร์สหรัฐ ขระที่เงินปอนด์ขยับขึ้น 0.25% แตะที่ 1.5938 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5898 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.45% แตะที่ 1.0398 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0351 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดขึ้น 0.21% แตะที่ 0.8216 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8199 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง และเทขายสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำอย่างดอลลาร์สหรัฐและเงินเยน หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปเริ่มคลี่คลายลง และเศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้น รวมถึงรายงานที่ว่ารัฐบาลสเปนขายตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือน วงเงิน 2.09 พันล้านยูโร และตั๋วเงินคลัง 18 เดือน ในวงเงิน 1.09 พันล้าน ยูโร ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2-3 พันล้านยูโร โดยสัดส่วน bid-to-cover อยู่ที่ 2.9 เท่าสำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือน เทียบกับ 2.1 เท่าในครั้งที่แล้ว และ 3.8 เท่าสำหรับตั๋วเงินคลัง 18 เดือน เพิ่มขึ้นจาก 2.9 เท่าในครั้งที่แล้ว

ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2555 โดยระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวในอัตรา 3.5% ในปี 2555 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% จากการคาดการณ์ในเดือนม.ค. โดยเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะเติบโตที่ 1.4% และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะขยายตัวมากถึง 5.7% ส่วนในปี 2556 ไอเอ็มเอฟคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกจะเพิ่มขึ้น และการผลิตจะขยายตัว 4.1%

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐทรงตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนมี.ค.อันเป็นผลจากการผลิตที่ลดลง ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนมี.ค.ร่วงลง 5.8% มาอยู่ที่ระดับ 654,000 ยูนิต จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 694,000 ยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 705,000 ยูนิต

ทางการอังกฤษจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนมี.ค.ในวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษจะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทยเช่นกัน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ