คริสเตียน ชูลซ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารดาเรนเบิร์กของเยอรมนี แสดงความเห็นว่า สเปนยังคงมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของวิกฤตหนี้สาธาราณะในยูโรโซน และระบุว่า แม้รัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลขายตราสารหนี้ระยะสั้นได้ถึง 3.2 พันล้านยูโร (4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความต้องการที่แข็งแกร่ง แต่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาระการชำระหนี้เมื่อถึงวันไถ่ถอนนั้น ก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ชูลซ์กล่าวว่า แม้การปรับตัวขึ้นของตราสารหนี้ยังคงอยู่ในระดับที่รัฐบาลสเปนสามารถจัดการได้ แต่การที่สเปนต้องพึ่งพาธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศในการเข้าซื้อพันธบัตรหรือตราสารหนี้ในการประมูลนั้น ทำให้สเปนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง
"หากธนาคารของสเปน ซึ่งทำหน้าที่แทนนักลงทุนต่างชาติในฐานะผู้ซื้อหลักของตราสารหนี้สเปน เริ่มที่จะลังเล ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะทำให้สเปนต้องขอความช่วยเหลือจากประเทศสมาชิกในยุโรป" ชูลซ์กล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลสเปนต้องจ่ายผลตอบแทน 2.6% ในการขายตราสารหนี้อายุ 12 เดือน วงเงิน 2.1 พันล้านยูโร เมื่อเทียบกับระดับ 1.4% ในการประมูลเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้อายุ 18 เดือนเพิ่มขึ้นเป็น 3.1% จากระดับ 1.7%
อย่างไรก็ตาม ชูลซ์กล่าวว่า สเปนอาจจะมีคุณสมบัติเพียงพอต่อการได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศหากว่าสเปนยื่นเรื่องมา เพราะที่ผ่านมานั้น สเปนได้ประกาศใช้มาตรการเพื่อปฏิรูปตลาดแรงงานและลดยอดขาดดุลงบประมาณ